สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ให้การต้อนรับและพบหารือกับนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่ทำเนียบเครมลิน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยหวังถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของรัฐบาลปักกิ่ง ซึ่งเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่รัฐบาลมอสโกและรัฐบาลปักกิ่ง ประกาศการเป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ไร้ขีดจำกัด” เพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนรัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย พบหารือกับนายหวัง อี้ ประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่ทำเนียบเครมลิน ในกรุงมอสโก


นายหวังกล่าวว่า แม้อยู่ท่ามกลางภาวะวิกฤติ รัสเซียและจีนจะเดินหน้า “สานต่อและยกระดับการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่ไร้ขอบเขต” ต่อไป ขณะที่ปูตินกล่าวว่า รัฐบาลมอสโกเฝ้ารอการเยือนอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ซึ่งจะเป็นการขยายขอบเขตของความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี “สู่พรมแดนใหม่”

นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย พบหารือกับนายหวัง อี้ ประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่กรุงมอสโก


อนึ่ง รัสเซียมีกำหนดซ้อมรบร่วมกับจีน และแอฟริกาใต้ ในวันศุกร์ที่ 24 ก.พ. นี้ โดยมีรายงานว่า กองทัพรัสเซียจะไม่ใช้ขีปนาวุธ แต่จะมีการยิงปืนใหญ่ ซึ่งความเร็วของกระสุน “เป็นการยากกว่า” สำหรับฝ่ายตรงข้าม ที่จะยิงสกัด


ทั้งนี้ รัสเซียประกาศระงับความร่วมมือกับสหรัฐ ตามกรอบสนธิสัญญาภาพระดับทวิภาคี ว่าด้วยการลดจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ “นิว สตาร์ต” ที่มีสาระสำคัญคือ การจำกัดการครอบครองหัวรบนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ของทั้งสองประเทศให้ไม่เกิน 1,550 ลูก


แม้ปูตินเน้นย้ำว่า ท่าทีของรัฐบาลมอสโกเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ “การระงับ” หรือ “พักชั่วคราว” ไม่ใช่ “การถอนตัว” หรือ “การยุติข้อตกลง” อย่างไรก็ตาม ผู้นำรัสเซียกล่าวถึงการดำเนินงานของ โรซาตอม ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานนิวเคลียร์ของรัสเซีย ต้องมีความพร้อมทุกเมื่อ “ในยามถึงคราวจำเป็น” ที่รัสเซียต้องทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งปูติน ยืนยันว่า รัสเซียจะไม่เป็นฝ่ายดำเนินการก่อน แต่เมื่อใดก็ตามที่สหรัฐทดสอบ รัสเซียจะทำเช่นกัน.

เครดิตภาพ : REUTERS