จากกรณีที่ผึ้งหลวงจำนวนนับหมื่นหมื่นตัวบินหนีไฟป่าออกจากผืนป่าใหญ่ คาดว่าบินมาจากเขตพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัย บนเทือกเขาถนนธงชัย ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง แล้วบินลงมารุมต่อย คุณตาวัย 73 ปีและภรรยาวัย 53 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. นายนวพล นวกุลพันธ์ นายอำเภอบ้านตาก พร้อมด้วย นายชนม์ชนก ลิขิตวัฒนาเกียรติ์ สาธารณสุขอำเภอบ้านตากได้เดินทางไป บ้านของผู้ประสบเหตุตั้งอยู่ในหมู่บ้านสมอโคน ต.มอโคน อ.บ้านตาก จ.ตาก เพื่อเยี่ยมอาการ คุณตาพรวน ปันตา อายุ 73 ปี สามี และนางสายสุดา ควายอุ่น 53 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ซีกซ้าย พร้อมมอบสิ่งของและเงินช่วยเหลือ เพื่อเยียวยาสภาพจิต  โดยสองสามีภรรยา ได้ยกมือไหว้ขอบคุณที่เสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยเหลือนำตัวทั้งสองคนส่งโรงพยาบาลและรักษาได้อย่างทันท่วงที

ในส่วนของคุณตาพราน บอกว่า ในช่วงเย็นกำลังพาภรรยาเดินออกกำลังกายเพื่อทำการกายภาพ แล้วนั่งพักอยู่บริเวณใต้ต้นมะม่วงอยู่ในบริเวณบ้าน จู่ ๆ ผึ้งหลวงจำนวนมากก็บินลงมาต่อย ตนเองวิ่งกระโดดหนีตายลงไปในแม่น้ำปิง จากนั้นกระโจนขึ้น แล้ววิ่งหนีไปอีก 500 เมตร เพื่อไปขอความช่วยเหลือ วินาทีนั้นก็เป็นห่วงภรรยา เพราะพิการเคลื่อนไหวไม่ได้ จนกระทั่งกู้ภัยมาถึง พาตัวเองไปโรงพยาบาลก่อนแล้ววนกลับมาช่วยภรรยา วินาทีนั้นถ้าไม่ได้พวกกู้ภัยมารับตัวและนำส่งโรงพยาบาลอย่างทันท่วงที คิดว่าภรรยาของตนเองอาจจะไม่รอด

ผึ้งหลวงนับหมื่นตัวบินหนีไฟป่า มารุมต่อย2ตา-ยายอ่วมทั้งตัว

ด้าน นางสายสุดา บอกว่า ผึ้งหลวงที่ต่อยตนเองประมาณ 500-600 ตัว ส่วนใหญ่อยู่บริเวณใบหน้าและแขนขา เจ็บปวด แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะตนเองพิการทางด้านการเคลื่อนไหว จึงทำใจยอมรับสภาพว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด พยายามกระเสือกกระสน คลานไปกับพื้น หนีตาย จากใต้ต้นมะม่วง ไปถึงบริเวณหน้าบ้าน จนกระทั่งกู้ภัย อบต.สมอโคน มารับตัวแล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลบ้านตาก แล้วคุณหมอก็ทำการดึงเหล็กในบริเวณใบหน้าและลำตัวออกมากถึง 500-600 ตัว ได้ทำการฉีดยา รักษา และนอนอยู่โรงพยาบาล หลายวัน ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว ก็ต้องขอขอบคุณทางกู้ภัย อบต.สมอคโคน และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบ้านตาก ที่ให้การช่วยเหลือตนเองและสามีจนรอดปลอดภัย.