สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เมื่อวันที่ 1 มี.ค. เกี่ยวกับความคืบหน้าของอุบัติเหตุรถไฟโดยสาร ซึ่งเดินทางมาจากกรุงเอเธนส์ มุ่งหน้าเมืองเทสซาโลนิกิ ที่อยู่ทางตอนเหนือ และรถไฟขนส่งสินค้าซึ่งเดินทางมาจากเมืองเทสซาโลนิกิ มุ่งหน้าเมืองลาริสซา ที่อยู่ทางตอนกลาง ชนประสานงากันในเขตชานเมืองลาริสซา เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา


สำนักงานผู้ว่าการภูมิภาคเทสซาลี ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือผู้รอดชีวิตได้ประมาณ 250 คน อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 32 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 85 คน ขณะที่ตู้โดยสาร 4 ตู้แรก ของขบวนรถตกรางหลังชนเข้ากับขบวนรถไฟขนส่งสินค้า และสองตู้แรกเกิดเพลิงไหม้จนเสียหายยับเยิน


อนึ่ง ผลการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า รถไฟทั้งสองขบวน “แล่นอยู่บนรางเดียวกัน” โดยที่พนักงานขับรถไฟต่างไม่ทราบว่า มีรถไฟอีกขบวนกำลังแล่นสวนทางมา และการที่รถไฟทั้งสองขบวนต่างแล่นมาด้วยความเร็วสูง ส่งผลให้การชนกัน “มีความรุนแรงมาก”


ด้านสื่อท้องถิ่นหลายแห่งรายงานเพิ่มเติมว่า อุบัติเหตุรถไฟชนกันของกรีซในครั้งนี้ มีความรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2515 ซึ่งตอนนั้นมีผู้เสียชีวิต 19 ราย หลังรถไฟโดยสารสองขบวนชนกัน บริเวณเมืองลาริสซาเช่นกัน


อนึ่ง หลายฝ่ายในกรีซยอมรับว่า ระบบการคมนาคมทางรางภายในประเทศจำเป็นต้องได้รับการ “ยกเครื่องครั้งใหญ่” เนื่องจากโครงสร้างส่วนใหญ่ยังคงเป็นรางเดี่ยว ยิ่งไปกว่านั้นยังคงต้องใช้มนุษย์ควบคุม แม้มีการพยายามติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์มากขึ้น แต่ยังคงไม่ทั่วถึง โดยกรีซขายกิจการการรถไฟแห่งชาติให้อิตาลี เมื่อปี 2560 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเงื่อนไขการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการรับเงินสินเชื่อจากนานาชาติ.

เครดิตภาพ : REUTERS