สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ว่า สื่อท้องถิ่นหลายแห่งของกรีซรายงานไปในทางเดียวกันว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจาก อุบัติเหตุรถไฟโดยสารชนประสานงากับรถไฟขนส่งสินค้า ที่เมืองลาริสซา ในภูมิภาคเทสซาลี ทางตอนกลางของกรีซ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา เพิ่มเป็นอย่างน้อย 57 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 85 คน โดย 48 คน ยังคงต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล แต่ยังมีผู้สูญหายอีก 56 คน ถือเป็นโศกนาฏกรรมรถไฟชนกัน ครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์การเดินรถไฟของกรีซ


ขณะที่ นายสถานีเมืองลาลิสซา ซึ่งทุกฝ่ายเปิดเผยข้อมูลเพียงว่า เป็นชายวัย 59 ปี ถูกจับกุม และอัยการสั่งฟ้องในข้อหา กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ชีวิตของผู้อื่นตกอยู่ในความเสี่ยง และการก่อกวนระบบคมนาคม โดยยังไม่มีความชัดเจนว่า จะมีการตั้งข้อกล่าวหาเพิ่มอีกหรือไม่


ทั้งนี้ ผลการสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้น ระบุว่า รถไฟทั้งสองขบวนแล่นอยู่บนรางเดียวกัน “เป็นระยะทางหลายกิโลเมตร” โดยต่างฝ่ายต่างแล่นมาด้วยความเร็วประมาณ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อชนกันอย่างแรง อุณหภูมิของหนึ่งในตู้โดยสารพุ่งสูงถึง 1,300 องศาเซลเซียส


ส่วนข้อมูลเบื้องต้นจากบริษัท เฮลเลนิก เทรน ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถไฟโดยสารขบวนที่ประสบอุบัติเหตุ ระบุว่า ขบวนรถในวันเกิดเหตุมีผู้โดยสาร 342 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาซึ่งเดินทางกลับภูมิลำเนา ในช่วงวันหยุดยาวของกรีซ และมีพนักงาน 10 คน


ด้าน นายจิอานนิส โออิโคโนมู โฆษกรัฐบาลกรีซ กล่าวว่า รัฐบาลได้รับทราบเกี่ยวกับ “การยอมรับสารภาพ” ของนายสถานีเมืองลาริสซา ว่า “มีความประมาทและหละหลวมต่อหน้าที่” หลังมีการเปิดเผยคลิปเสียงว่า เจ้าตัวบอกให้พนักงานขับรถไฟ 1 ใน 2 ขบวนที่ประสบอุบัติเหตุ “ฝ่าสัญญาณไฟแดง” และการจัดการให้รถไฟทั้งสองขบวนแล่นอยู่บนรางเดียวกัน

ชาวกรีซเดินขบวนประท้วงรัฐบาล ที่กรุงเอเธนส์ หลังเกิดอุบัติเหตุรถไฟโดยสารชนกับรถไฟบรรทุกสินค้า ในเมืองลาริสซา


ในอีกด้านหนึ่ง ยังคงมีการประท้วงเกิดขึ้นในกรุงเอเธนส์ และตามเมืองใหญ่อีกหลายแห่ง จากมวลชนซึ่งไม่พอใจต่อการตอบสนอง และการจัดการของรัฐบาลที่มีต่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้ แม้นาย คอสตาส คารามันลิส ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี คีเรียคอส มิตโซทาคิส ผู้นำกรีซ ขอลาออกจากตำแหน่ง รมว.คมนาคม ทว่ายังไม่อาจบรรเทาความโกรธแค้นของประชาชนได้มากนัก.

เครดิตภาพ : REUTERS