สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากรุงไทเป สาธารณรัฐจีน เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ว่า พล.อ.ชิว กั๋ว-เจิ้ง รมว.กลาโหมไต้หวัน กล่าวถึงสถานการณ์ด้านความมั่นคงข้ามช่องแคบ ที่หมายถึงบรรยากาศด้านความมั่นคงกับจีน ว่าแม้จนถึงขณะนี้ กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ( พีแอลเอ ) ยังไม่เคยเข้ามาในบริเวณที่รัฐบาลไทเปถือเป็น “เขตต่อเนื่อง” ซึ่งหมายถึงน่านน้ำที่ต่อเนื่องออกมาจากทะเลอาณาเขต ในระยะ 24 ไมล์ทะเล หรือ 44.4 กิโลเมตรจากชายฝั่ง


อย่างไรก็ตาม “มีความเป็นไปได้” ที่ในอนาคต พีแอลเอจะใช้ยุทธวิธี “แบบฉับพลัน” ที่เป็น “การสร้างข้ออ้าง” เพื่อเข้ามาในเขตต่อเนื่อง แล้วยิ่งขยับเข้าใกล้บริเวณที่รัฐบาลไทเปถือเป็นทะเลอาณาเขต ซึ่งมีระยะห่าง 12 ไมล์ทะเลจากชายฝั่ง


ขณะที่ปัจจุบัน พีแอลเอส่งเรือและอากาศยานเข้ามาในเขตที่ไต้หวันถือเป็น น่านฟ้าและน่านน้ำอาณาเขต โดยเฉลี่ยวันละประมาณ 10 ลำ โดยมีหลายครั้งที่เรือและเครื่องบินเหล่านั้นข้าม “เส้นมัธยฐาน” ซึ่งจีนและไต้หวันตกลงกันอย่างไม่เป็นทางการในระดับทวิภาคี เพื่อใช้แบ่งน่านฟ้าและน่านน้ำระหว่างทั้งสองฝ่ายด้วย


อนึ่ง นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน แถลงต่อสภาประชาชนแห่งชาติ ( เอ็นพีซี ) ในกรุงปักกิ่ง เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการเพิ่มความพร้อม และความทุ่มเทของพีแอลเอ ในการฝึกซ้อมทางยุทธวิธี เพื่อยกระดับศักยภาพในทุกด้านให้กับพีแอลเอ ซึ่งเตรียมเฉลิมฉลองการสถาปนาครบ 100 ปี ในปี 2570 พร้อมทั้งกำหนดเป้าหมายการใช้จ่ายของภาคกลาโหมไว้ที่ 7.2% ของงบประมาณ หรือราว 1.55 ล้านล้านหยวน ( ราว 7.7 ล้านล้านบาท )


เกี่ยวกับความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ ซึ่งหมายถึงไต้หวัน หลี่ กล่าวว่า ทุกภาคส่วนของจีนยึดมั่นอย่างเคร่งครัด ต่อหลักการ “จีนเดียว” ที่หมายถึง “ไต้หวันคือส่วนหนึ่ง” พร้อมทั้ง “การคัดค้านการเคลื่อนไหวเพื่อแบ่งแยกดินแดนของไต้หวัน” และเน้นย้ำว่า รัฐบาลปักกิ่ง “มุ่งมั่นแสวงหาหนทางรวมชาติอย่างสันติ”.

เครดิตภาพ : REUTERS