สำนักข่าวซินหัว รายงานจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ว่า นายโด ห่า นาม ประธานของอินทิเมกซ์ กรุ๊ป และรองประธานสมาคมกาแฟและโกโก้เวียดนาม คาดการณ์การเก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟของเวียดนามในปีนี้ ไว้ที่ 1.47 ล้านตัน สำหรับปีการเพาะปลูก 2565/2566 ซึ่งเป็นการลดลงประมาณ 10-15% จากปีเพาะปลูกก่อนหน้า เนื่องจากผู้เพาะปลูกกาแฟหันไปปลูกผลไม้ชนิดอื่นแทน เพื่อการทำกำไรที่มากกว่า
ปัจจุบัน เวียดนาม ซึ่งเป็นรองเพียงบราซิลในแง่การผลิตกาแฟ มีปริมาณเมล็ดกาแฟที่เก็บตุนไว้ลดลง จึงมีการคาดการณ์ว่า ปริมาณการส่งออกเมล็ดกาแฟรายปีจะลดลงเช่นกัน
ทั้งนี้ เวียดนามได้รักษาปริมาณสินค้าเมล็ดกาแฟคงคลัง เพื่อป้องกันราคาตกลง เมื่อผลผลิตใหม่ออกสู่ตลาด โดยบรรดาผู้ส่งออกกาแฟสามารถซื้อเมล็ดกาแฟจำนวนหนึ่ง และเก็บตุนให้พ้นจากการหมุนเวียนในตลาดเป็นระยะเวลาหนึ่ง ภายใต้การอนุมัติกักตุนกาแฟในประเทศของรัฐบาล
ขณะที่ข้อมูลจากสำนักงานสถิติทั่วไปของเวียดนาม ระบุว่า เวียดนามส่งออกกาแฟ 323,000 ตัน ระหว่างเดือน ม.ค.-ก.พ. ปีนี้ ลดลง 13.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และคิดเป็นมูลค่า 703 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 24,200 ล้านบาท ) ลดลง 14.6% เมื่อเทียบแบบปีต่อปี
ขณะที่บรรดาผู้สันทัดกรณีแนะว่า เวียดนามจำเป็นต้องทำแผนผังพื้นที่เพาะปลูกใหม่ มีการปรับใช้เทคโนโลยีเครื่องจักรกลและชลประทานที่ก้าวหน้า ตลอดจนปรับปรุงเทคนิคการคัดเลือกพันธุ์พืช เพื่อรักษาระดับผลผลิตและมูลค่าให้เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
อนึ่ง เวียดนามตั้งเป้าหมายทำรายได้จากการส่งออกกาแฟ 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 200,700 ล้านบาท ) ภายในปี 2573 หลังสามารถทำรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 3,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 134,000 ล้านบาท) จากการส่งออกกาแฟ 1.7 ล้านตัน เมื่อปีที่แล้ว โดยพื้นที่ปลูกกาแฟขนาดใหญ่ที่สุดของเวียดนาม คือ ภูมิภาคที่ราบสูงตอนกลาง ครองสัดส่วน 90% ของผลผลิตทั้งหมด.
ข้อมูล-ภาพ : XINHUA