ถูกพูดถึงหนักมากทีเดียว หลังคุณแม่ ภนิดา ศิระยุทธโยธิน หรือ แม่ของดาราดัง แตงโม นิดา ผู้ล่วงลับ พร้อมที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย ชัยวัฒน์ โลมากุล ได้เดินทางมาถ่ายทำรายการคนดังนั่งเคลียร์ ช่อง 8 พร้อมเผยว่า มีหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับลูกสาว อีกทั้งตอนนี้ได้ยกเลิกและเพิกถอนทนายชุดเก่าที่เคยเกี่ยวข้องทั้งหมด และไม่ได้ถูก แซน วิศาพัช ฟ้องอย่างที่เป็นข่าวอีกด้วย

แม่ภนิดา เผยว่า “แม่ได้ฟังเสียงหลักฐานแล้ว ชัวร์ค่ะ ไม่มีเสียงลูกเรา เพราะลูกเราก็ตกน้ำไปแล้ว เป็นเสียงหลังเกิดเรื่อง ใครทำอะไรบ้าง ได้ฟังแล้ว​เศร้าใจค่ะ เศร้าใจมาก ๆ เลยที่เพื่อนที่น้องโมรัก ทำลายน้องโม เรื่องฟ้องใหม่ คุณแม่ตัดสินใจเองทั้งหมด คุณแม่คุยกับคุณชัยวัฒน์ 2 คนค่ะ ส่วนทนายที่แม่เพิกถอนก็มี ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย, ทนายเดชา, นายอัจฉริยะ และของคุณเต้ ก็มี เป็นทีมใหญ่ คุณแม่ก็เซ็นเอกสารแต่งตั้งไว้หลายคน ทีมคุณเต้เนี่ย คุณแม่จะขอเพิกถอนและขอเก็บทุกอย่างกลับคืน ขอประกาศหน้าสาธารณชน คุณแม่ขอเพิกถอนเอกสารที่คุณแม่ได้เซ็นทิ้งไว้ หรืออะไรทั้งหลายทั้งปวง ขอคืนทั้งหมดค่ะ ยังเหลือทีมทนายของคุณเต้-มงคลกิตติ์ นะคะ ต่อมาก็มีทนายชนบท ทนายอ้น ที่ยังมีเอกสารของเราอยู่เยอะ และต่อมาสุดท้ายคุณชัยวัฒน์ เรื่องของลูกเราอีก 2 ปีน่าจะจบ”

“เรื่องแม่โดนฟ้องไหม ยังค่ะ ยังไม่โดน คือเรื่องมันยาวตั้งแต่ปีที่แล้ว แซนและกระติก เขาไม่เคยมาคุยกับแม่เลยนะ คุยในลักษณะคุณปอกับคุณเบิร์ต ไม่เคยเข้ามาคุย โดยเฉพาะคุณกระติก ไม่เคยโทรฯ มาหาแม่เลย โทรฯ มาชวนเที่ยวแค่ครั้งเดียวเท่านั้น”

ชัยวัฒน์ เผยว่า “กราบเรียนพี่น้องประชาชนคนไทย และผู้ให้ความสนใจกับคดีนี้ เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่คนจับตามอง มันมีผลต่อความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรม กระบวนการสืบสวน เพราะฉะนั้นคดีที่ท่านบอกว่ายกฟ้องเนี่ย ยังไม่ใช่ข้อมูลที่แท้จริงนะครับ คดีนี้จำเลยยอมรับสารภาพ เพราะฉะนั้นกระบวนการสิทธิตามกระบวนกฎหมายอาญามาตรา 5 (2) คุณแม่ยังใช้สิทธิที่จะดำเนินคดีกับจำเลยที่เหลืออยู่ ในเมื่อคุณแม่ใช้สิทธิตรงนี้นะครับ เราก็จำเป็นต้องหาพยานหลักฐานใหม่เพิ่มเติม เพื่อที่จะขอเข้าไปตรวจร่วม ที่รับงานกับคุณแม่ ก็ต้อง​กราบขอบพระคุณคุณแม่มากครับ ที่ให้ความไว้วางใจ คดีนี้ผมได้ศึกษา และได้มีความรู้จักกับผู้ใหญ่ด้วย ผู้ใหญ่ก็หมายความว่าเป็นเพื่อนของคุณแม่ครับ แนะนำให้มาอยู่แบ๊กกราวด์นานพอสมควร ตั้งแต่คดีเกิดใหม่ ๆ แต่ว่าผมยังไม่ได้ลงมาทำงานเต็มตัว ก็ดูเป็นระยะพอสมควร เห็นว่ามันจะไปกันใหญ่แล้ว คือมันไม่สามารถที่จะหาข้อยุติในเรื่องการเจรจา เบื้องแรกเราต้องรู้จุดก่อนว่า คุณแม่เนี่ย ถ้ามีความประสงค์ที่จะดำเนินคดี ก็เต็มที่เลย แต่ถ้าเกิดจะเจรจา ต้องยุติให้เจรจาก่อน และค่อยไปว่ากันในเรื่องของเนื้อหาครับ”