ถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนสนใจอย่างมากสำหรับเรื่องราวของนักแสดงอาวุโส อดีตพระเอกภาพยนตร์คนดัง อุเทน บุญยงค์ วัย 75 ปี ที่ล้มป่วยด้วยอาการกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ตามปกติ ซึ่งพอแฟนๆ ทราบข่าวก็พากันส่งกำลังใจและอวยพรขอให้อดีตพระเอกดังแข็งแรงไวๆ

โดยเพจดังในโลกออนไลน์อย่างดาราภาพยนตร์ ได้ลงรูปในอดีตและปัจจุบันของอุเทน พร้อมข้อความเล่าเรื่องราวว่า “อดีตพระเอกภาพยนตร์คนดังอุเทน บุญยงค์ ล้มป่วยด้วยอาการกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ตามปกติ ข่าวทราบถึงฮีโร่คนบันเทิง บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ จึงจัดส่งเตียงผู้ป่วยไฟฟ้านำไปมอบให้ เพื่อสะดวกในการที่คนดูแลจะให้อาหาร และเช็ดตัวและอดีตพระเอกผีเสื้อกับดอกไม้ ป๊อบ-สุริยา เยาวสังข์ นำข้าวสารอาหารแห้งพร้อมยารักษาโรค นำไปมอบให้อุเทน บุญยงค์ อดีตนักแสดงชายชาวไทยที่มีชื่อเสียง”

“โดยอุเทนเกิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2489 ที่ จังหวัดชลบุรี จบมัธยมปลายจากโรงเรียนการช่างชายในจังหวัดชลบุรี ทำงานครั้งแรกเป็นพนักงานขายรถยนต์ อยู่ที่บริษัทขายรถยนต์แห่งหนึ่ง เมื่อสะสมเงินได้จำนวนหนึ่ง ก็ลาออกมาร่วมทุนกับเพื่อน ๆ เปิดบาร์ ซึ่งมีชื่อเสียงมากในจังหวัดชลบุรี ต่อมาได้เลิกกิจการไป ต่อมาได้รู้จักนักธุรกิจในวงการบันเทิงท่านหนึ่ง เห็นว่ามีแววดี จึงนำมาเป็นนายแบบเดินแบบแฟชั่นก่อนด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ ต่อมาได้มีเพื่อนซึ่งเป็นนักข่าวบันเทิงแนะนำให้รู้จักกับ เปี๊ยก โปสเตอร์ ผู้สร้างและผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในขณะนั้น เมื่อผ่านการเทสต์หน้ากล้อง ปรากฏว่า เปี๊ยก พอใจมาก จึงให้เล่นเป็นพระเอกในภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่ตนเองกำกับเอง คือ เขาสมิง ในปี พ.ศ. 2516 ซึ่งเปี๊ยกกำลังมองหาพระเอกใหม่อยู่พอดี ต้องมาเล่นกับนางเอกที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในขณะนั้น คือ ภาวนา ชนะจิต แต่ทว่าเมื่อเข้าฉายแล้วไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากเข้าฉายตรงกับวันมหาวิปโยค หรือ เหตุการณ์ 14 ตุลา นั่นเอง”

“จากนั้นในต้นเดือนมีนาคม พ.ศ. 2517 อุเทนได้ถูกวางตัวให้เล่นภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ที่ร่วมกันสร้างระหว่างไทยกับอิตาลี โดยประกบกับ มอนต์โกเมอรี่ วูด นักแสดงที่มีชื่อเสียงชาวอิตาเลียน อุเทนได้เดินทางไปถ่ายทำที่อิตาลี มีฉากที่อุเทนแสดงบทมวยไทยที่จะต้องต่อสู้กับคาราเต้และกังฟู โดยให้ทางไทยต้องเพลี่ยงพล้ำให้แก่ศิลปะการต่อสู้ของชาติอื่น ซึ่งอุเทนก็เริ่มอึดอัดเพราะไม่เป็นไปตามที่ตกลง อีกทั้งทางฝ่ายอิตาลียังมีการบิดเบี้ยวใช้เล่ห์เหลี่ยมพลิกแพลงอย่างอื่นอีกสารพัด จนอุเทนไม่สามารถอดกลั้นไว้ได้ จนมีเหตุวิวาทกัน ในที่สุดอุเทนก็เดินทางกลับประเทศไทย และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถ่ายทำไม่จบ จากนั้นก็มีผลงานภาพยนตร์เข้ามาเรื่อย ๆ ทั้งบทพระเอก พระรอง และนักแสดงสมทบโดยมีผลงานการแสดงเรื่องสุดท้ายคือ เก่งจริงนะตัวแค่เนี้ยะ ในปี พ.ศ. 2535”

งานนี้เรียกว่าชาวเน็ตที่เห็นเรื่องราวดังกล่าวของอดีตพระเอกดัง ก็ต่างมาให้กำลังใจและแชร์ประสบการณ์ที่เคยชมผลงานของอุเทน บุญยงค์ กันอย่างมากมาย

ขอขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ๊ก ดาราภาพยนตร์