จากกรณีข่าว “ท่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137” ได้หายไปจากโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำที่ตั้งอยู่ ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งวัสดุดังกล่าวมีลักษณะเป็นท่อกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 นิ้ว ยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม โดยเป็นเครื่องมือวัดระดับของขี้เถ้าในไซโลของโรงไฟฟ้า เบื้องต้นทราบว่าตัวเก็บสารดังกล่าวได้หลุดออกมาจากจุดติดตั้งเพราะใช้งานมานาน และทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าอาจมีชาวบ้านหรือคนเก็บของเก่ามาเจอคิดว่าเป็นเศษเหล็ก จึงนำไปขายโดยไม่ทราบว่าวัตถุดังกล่าวเป็นสารอันตรายต่อสุขภาพ

โดยประเด็นดังกล่าวสร้างความวิตกกังวลแก่ชาวบ้านและประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนานกว่า 1 สัปดาห์ นับตั้งแต่ได้รับแจ้งเหตุ วันนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ ได้รวบรวมลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และวิธีการดำเนินการของทางเจ้าหน้าที่ดังนี้

  • วันที่ 10 มีนาคม 2566 เวลา 18.30 น. ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี ได้รับแจ้งเหตุกรณีวัสดุกัมมันตรังสีสูญหาย จากสถานประกอบการทางรังสีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
  • วันที่ 11 มีนาคม 2566 เวลา 19.30 น. จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโดยละเอียดด้วยเครื่องมือวัดทางรังสี ในพื้นที่เกิดเหตุร่วมกับสถานประกอบการ แต่ไม่พบวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 และเวลา 23.00 น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยว่าวัสดุกัมมันตรังสีได้สูญหายจากบริษัทดังกล่าว
  • วันที่ 13 มีนาคม 2566 เวลา 09.00 น. จัดเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องมือตรวจวัดทางรังสีเข้าตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินภายในโรงงานพร้อมเจ้าหน้าที่บริษัทฯ ร่วมปฏิบัติงานจำนวน 50 คน โดยตรวจสอบอย่างระเอียดทุกพื้นที่ภายใน สถานประกอบการ ผลการตรวจสอบยังไม่พบวัสดุกัมมันตรังสีในสถานประกอบการ
  • วันที่ 14 มีนาคม 2566 ปส. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ศรีมหาโพธิ โดยการเข้าตรวจสอบสถานประกอบการกิจการรับซื้อเศษโลหะและโรงหลอมเหล็กขนาดใหญ่จำนวน 15 แห่ง ภายใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี โดยใช้เครื่องมือตรวจวัดทางรังสีในการสำรวจวัสดุกัมมันตรังสีที่สูญหาย และการสอบถามข้อมูลจากสถานประกอบการดังกล่าว ผลการตรวจสอบยังไม่พบและต่อมาเวลา 15.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ นายแพทย์สาธารณสุขจ.ปราจีนบุรี และตัวแทนบริษัทฯ ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเรื่องวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 (Cesium–137,Cs-137) พร้อมกับตั้งรางวัลสำหรับคนที่ชี้เบาะแสนำไปสู่การติดตามกลับคืนมาได้ 50,000 บาท
  • วันที่ 15 มีนาคม 2566 เจ้าหน้าที่ ปส. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ศรีมหาโพธิ โดยการเข้าตรวจสอบสถานประกอบกิจการรับ ซื้อเศษโลหะ จ.ฉะเชิงเทรา
  • วันที่ 16 มีนาคม 2566 เจ้าหน้าที่ ปส.ดำเนินการตรวจสอบความเปรอะเปื้อนทางรังสีในพื้นที่ และของบุคลากรของโรงงานฯ
  • วันที่ 17 มีนาคม 2566 สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ดำเนินการค้นหาอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบัน ปส. มีการขยายกำลังในการค้นหา ทั้งในส่วนของพนักงานเจ้าหน้าที่ของ ปส. และดำเนินการประสานไปยังหน่วยงานพันธมิตร เพื่อร่วมปฏิบัติการค้นหาในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
  • วันที่ 18 มีนาคม 2566 ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 40 คน ค้นหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 บริเวณพื้นที่โรงไฟฟ้า ทั้งหมดและบริเวณรอบรั้วด้านในของจุดเกิดเหตุ ซึ่งแบ่งกลุ่มค้นหาออกเป็น 7 ทีม ทีมละ 6-7 คน โดยดำเนินการค้นหาอย่างละเอียดด้วยเครื่องมือวัดปริมาณรังสีและค้นหาทางสายตา (Visual inspection) อย่างละเอียด
  • วันที่ 19 มีนาคม 2566 ได้ดำเนินการค้นหาอย่างต่อเนื่อง โดย ปส. แบ่งทีมตรวจค้นหาวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ดังนี้
    1.กลุ่มตรวจสิ่งแวดล้อมภายในโรงงาน (ดิน น้ำ อากาศ)
    2.กลุ่มตรวจวัสดุกัมมันตรังสีที่มีใบอนุญาต safety และ security โดยละเอียด
    3.กลุ่มตรวจโรงเหล็กตามสถานประกอบการ

ความคืบหน้าล่าสุด ทางเจ้าหนาที่ได้เข้าตรวจโรงงานหลอมเหล็กที่ใหญ่ที่สุด จ.ปราจีนบุรี โดยมีเตาหลอม 8 เตา ในแต่ละวัน ซึ่งใช้เครื่องวัดสแกนหารังสีตามกองเศษเหล็กที่ถูกบีบอัดเป็นแท่งรอเข้าเตาหลอม พบว่าบางจุดเครื่องตรวจวัดจับสารบางอย่างได้แต่ไม่ระบุชนิด จึงประสานเจ้าหน้าที่พลังงานปรมาณูเพื่อสันติเข้าตรวจสอบอย่างละเอียด ยืนยันว่าเป็นสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137 สภาพถูกบีบอัดเป็นก้อนสี่เหลี่ยม กองซ้อนกันเป็นชั้นสูง เตรียมหลอมตามรอบช่วงเย็น และได้ประกาศปิดโรงหลอมดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ