เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ร.ต.อ สหพร ศิริจันโท รองสวป. สภ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาทที่ศูนย์กักกันเพื่อสังเกตอาการโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน จึงรุดไปตรวจสอบพบ น.ส.ธิดารัตน์ นับถือสุข อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/2 หมู่ 2 ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ศูนย์กักกัน พร้อมกับเล่าว่า ได้มีภรรยาของนายบอย (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี นำอาหารปรุงสำเร็จมาให้ภายในศูนย์ ตนจึงขอตรวจสอบภายในถุงพบว่ามีน้ำพริก ผักลวก แกง และผลไม้ จึงบอกภรรยาของนายบอยว่าไม่อนุญาตให้นำอาหารเข้าไปยกเว้นผลไม้เท่านั้น พร้อมทั้งอธิบายว่าที่ศูนย์มีอาหารให้ 3 มื้อ และแจ้งถึงสาเหตุว่าเนื่องจากก่อนหน้านี้มีญาตินำอาหารมาส่งให้กับผู้ที่โดนกักกันแล้วเกิดอาหารท้องเสียอาหารเป็นพิษ โดยเฉพาะน้ำพริก ถึงขั้นนำส่งโรงพยาบาลบ้านด่าน มาแล้ว ทำให้นายบอย ไม่พอใจจึงเกิดการโต้เถียงกันลั่นศูนย์กักกัน โดยระหว่างนั้นเห็นว่านายบอย ปรี่ที่จะมาทำร้าย ตนตกใจจึงวิ่งหนีก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ

ด้านนายบอย กล่าวว่า ตนเดินทางมาจาก จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมาแล้วมากักตัวอยู่ที่ศูนย์แห่งนี้ให้ครบ 14 วัน แต่ละวันกินแต่ข้าวกล่อง รสชาติไม่ถูกปาก จึงโทรศัพท์ไปบอกภรรยาที่บ้านว่าอยากกินน้ำพริก ให้ตำน้ำพริก พร้อมกับผักลวก มาส่งให้ที่ศูนย์ แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้นำน้ำพริกเข้ามา ยอมรับว่าเครียดเพราะตั้งความหวังไว้ว่าจะได้กินน้ำพริกผักลวกอร่อยๆ เหตุผลของเจ้าหน้าที่อ้างว่ากินแล้วจะท้องเสียนั้น ส่วนตัวคิดว่าเป็นไปไม่ได้เพราะคนอีสานกินแต่น้ำพริกมาตั้งแต่เกิด

“ส่วนหนึ่งรู้สึกผิดที่แสดงกิริยาไม่ดีกับเจ้าหน้าที่ แต่ก็อยากให้เจ้าหน้าที่เห็นใจและเข้าใจความรู้สึกของคนกินข้าวกล่องเป็นประจำ ถ้าเป็นไปได้อยากให้เจ้าหน้าที่เปลี่ยนเมนูอาหารให้กับผู้กักกัน เพราะนอกจากจะเครียดจากการถูกกักตัวแล้วยังต้องมาเครียดที่ไม่ได้กินอาหารถูกใจบ้าง” นายบอย กล่าว