สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ว่า การประกาศตัวเลขยอดผู้ใช้งานเกิดขึ้น ในขณะที่วุฒิสมาชิกสหรัฐอีก 6 คน สนับสนุนการแบนแอปพลิเคชัน “ติ๊กต็อก” ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ติ๊กต็อกกล่าวว่า รัฐบาลของไบเดนต้องการให้ “ไบต์แดนซ์” บริษัทแม่ของติ๊กต็อก ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่กรุงปักกิ่งของจีน ขายหุ้นที่มีอยู่ทั้งหมดในแอปพลิเคชัน เพื่อแลกกับการไม่ถูกแบนในสหรัฐ

ทั้งนี้ ติ๊กต็อกเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากรัฐบาลวอชิงตัน รวมถึงการเรียกร้องให้มีการแบนแอปพลิเคชันนี้ จากสมาชิกหลายคนในสภาคองเกรส ที่กลัวว่าข้อมูลของผู้ใช้งานในสหรัฐ อาจตกไปอยู่ในมือของรัฐบาลจีน

ขณะที่ นายมาร์ค วอร์เนอร์ ประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองแห่งวุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ออกกฎหมายเพื่อให้อำนาจแก่ฝ่ายบริหารมากขึ้น ในการแบนติ๊กต็อก กล่าวว่า เขาไม่คิดว่าข้อมูลของสหรัฐที่มีอยู่ในติ๊กต็อกนั้น “ปลอดภัย”

อีกด้านหนึ่ง ติ๊กต็อกระบุว่า บริษัททุ่มเงินกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 51,000 ล้านบาท) ไปกับความพยายามด้านความปลอดภัยของข้อมูลที่เข้มงวด พร้อมกับปฏิเสธข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการสอดแนม และเสริมว่า หากเป้าหมายของรัฐบาลวอชิงตันคือการปกป้องความมั่นคงของชาติ การถอนหุ้นจะไม่แก้ปัญหาแต่อย่างใด เนื่องจากการเปลี่ยนเจ้าของจะไม่กำหนดข้อจำกัดใด ๆ ต่อกระแสข้อมูล และการเข้าถึงข้อมูล

อย่างไรก็ดี ตัวเลขยอดผู้ใช้งานติ๊กต็อกที่มีการเผยแพร่นี้ เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความนิยมอย่างกว้างขวางในสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มวัยรุ่นชาวอเมริกัน อีกทั้งผู้สร้างคอนเทนต์บนติ๊กต็อกบางคน จะเดินทางมายังกรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ เพื่อคัดค้านการแบนแอปพลิเคชันดังกล่าว.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES