สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ว่า นายโซ่ว จื่อ โจว ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ( ซีอีโอ ) ของติ๊กต็อก เข้าพบคณะกรรมาธิการด้านพลังงานและการพาณิชย์ ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อชี้แจงและตอบข้อซักถามในหัวข้อ “ติ๊กต็อก : สภาคองเกรสสามารถปกป้องความเป็นส่วนตัวทางข้อมูลและพิทักษ์เยาวชน จากอันตรายบนโลกออกไลน์ได้อย่างไร”


การประชุมใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมง นายโจวเน้นย้ำหลายครั้งว่า ติ๊กต็อก ซึ่งเจ้าของคือ บริษัทไบต์แดนซ์ ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงปักกิ่ง “ไม่มีความเกี่ยวข้องในทางใดก็ตาม” กับพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่ไม่เคยขอข้อมูลจากติ๊กต็อก และติ๊กต็อกไม่เคยส่งมอบข้อมูลให้แก่ทางการจีนด้วย


ขณะเดียวกัน บริษัท “ดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อรักษาความปลอดภัย” ให้กับผู้ใช้งานราว 150 ล้านคนในสหรัฐ โดยตลอดสองปีที่ผ่านมา ติ๊กต็อกจัดทำไฟร์วอลล์เพื่อคุ้มครองข้อมูลของลูกค้าในสหรัฐ “จากการเข้าถึงโดยบุคคลภายนอกที่ไม่ได้รับอนุญาต”


ทั้งนี้ ซีอีโอติ๊กต็อก ยืนยันว่า ข้อมูลทั้งหมดของลูกค้าในสหรัฐ ได้รับการจัดเก็บในสหรัฐ ดูแลโดยบริษัทของสหรัฐ และบุคลากรที่เป็นชาวอเมริกัน ติ๊กต็อกลงทุนไปแล้วมากกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 51,079.50 ล้านบาท ) จัดทำโครงการ “Project Texas” รวมกับบริษัทออราเคิลของสหรัฐ ตอนนี้โครงการดังกล่าวมีพนักงานประจำเกือบ 1,500 คน เพื่อดูแลข้อมูลของผู้ใช้งานติ๊กต็อกในสหรัฐ

นายโซ่ว จื่อ โจว ซีอีโอของติ๊กต็อก ตอบคำถามของคณะกรรมาธิการด้านพลังงานและการพาณิชย์ ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ที่กรุงวอชิงตัน


อย่างไรก็ตาม การที่นายโจวปฏิเสธตอบคำถามในประเด็นที่ว่า ติ๊กต็อกเผยแพร่เนื้อหา “ชี้นำไปในทางที่ผิด” ให้กับเด็ก อาทิ การจัดกิจกรรม “ท้าทายและบ้าบิ่น” ขณะเดียวกัน ยังมีเนื้อหาสุ่มเสี่ยงเรื่องยาเสพติดและเพศ โดยกล่าวว่า “เป็นเรื่องที่ซับซ้อน” และ “ไม่ใช่แนวทาง” ของติ๊กต็อก สร้างความไม่พอใจอย่างหนักให้กับคณะกรรมาธิการ


ด้านเนื้อหาในแถลงการณ์ของกระทรวงพาณิชย์จีน ไม่ได้ระบุเกี่ยวกับการที่ซีอีโอของติ๊กต็อกเข้าพบคณะกรรมาธิการของสภาคองเกรสของสหรัฐ แต่ให้ความเห็นว่า “การบีบบังคับ” ให้ไบต์แดนซ์ขายหุ้นที่มีอยู่ในติ๊กต็อก จะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของนักลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะนักลงทุนจีน ที่จะลงทุนในสหรัฐ.

เครดิตภาพ : REUTERS