จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “อยากดังเดี่ยวจัดให้ รีเทิร์น part6” แชร์คลิปพร้อมโพสต์ข้อความ #เล่าเรื่องจากหลังไมค์ คือแท็กซี่ไปรับผู้โดยสารที่เซ็นทรัล แต่แท็กซี่เจ้าถิ่นไม่ให้รับ บังคับแขกให้ลงจากรถ แต่แขกไม่ลง รุมล้อมรถเหมือนมาเฟีย แล้วแขกก็เป็นชาวต่างชาติด้วย บ่อยมากครับที่นี่ จะทำนิสัยแบบมาเฟียบังคับข่มขู่ ทั้งมีคลิปและไม่มีคลิป ทำให้นักท่องเที่ยวตกใจเสียการท่องเที่ยว อยากให้สอบถามทางเซ็นทรัล เอามาเฟียมาให้บริการหรืออย่างไร จึงอยากให้ตีแผ่ถึงผู้หลักผู้ใหญ่ให้ลงไปดูหน่อย ถ้าปล่อยผ่านจะทำให้เสียการท่องเที่ยวและประเทศไทย เพิ่งเปิดการท่องเที่ยวมาไม่กี่เดือนเริ่มจะดีขึ้น แต่มีพวกที่ทำให้เสียชื่อภูเก็ตและการท่องเที่ยว #ไม่อยากปล่อยผ่าน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณหน้าห้างดังกล่าว ใน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ที่เกิดเหตุตามในคลิป และพบกับนายสมพร หนูคล้าย อายุ 53 ปี ประธานสหกรณ์บริการรถยนต์รับจ้างอันดามันภูเก็ตจำกัด ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตรงจุดนี้เลย รถแท็กซี่ป้ายกรุงเทพฯ แต่จำทะเบียนไม่ได้ ถ้าถูกกฎหมายตนให้รับหมด แต่คันนี้เป็นรถต่างจังหวัด ซึ่งทางขนส่งและตำรวจ บอกแล้วรถต่างจังหวัดรับไม่ได้ รถป้ายดำรถป้ายไม่ถูกต้อง ตอนนี้ก็มีอยู่หลายแอปพลิเคชัน รับได้หมด เราไม่ได้ห้าม แต่ที่เราเที่ยวเบรกคือรถไม่ถูกต้องอย่างเดียว เป็นรถป้ายดำ เป็นรถที่ไม่จดทะเบียนที่ให้รับผู้โดยสาร พอเกิดอุบัติเหตุอย่างนี้ ทางประกันก็ไม่จ่าย อะไรก็ไม่จ่าย ก็จะมีผลกระทบต่อพวกเรา

นายสมพร กล่าวต่อว่า ทุกคนมีสิทธิทำมาหากิน แต่คือความถูกต้องเป็นหลัก ไม่ใช่ทุกคนคิดจะทำก็ทำ ไม่ใช่เอาป้ายต่างจังหวัดมาวิ่งแบบนี้ ตอนนี้ตนก็โมโหเหมือนกัน ฝากทางผู้ใหญ่ ขนส่ง ผู้ว่าราชการ ช่วยมาดูแลพวกตนด้วย พอช่วงโควิด ต่างคนต่างไป ก็ไม่มีปัญหา พอหลังโควิด ลูกค้าเริ่มเยอะ รถถูกต้องบ้างไม่ถูกต้องบ้าง ก็มาทำให้ถูกต้องก่อน ไม่ใช่มาทำอย่างนี้ อย่างป้ายดำแบบนี้มาวิ่งได้อย่างไร ไม่ได้จดทะเบียน ต้องเข้าใจรถป้ายกรุงเทพฯ มาวิ่งภูเก็ตได้ไหม ตนเคยถามขนส่ง ขนส่งบอกวิ่งไม่ได้ ถ้ามาส่งอย่างเดียวได้ แต่มารับไม่ได้ คนที่อ้างว่าพวกตนเป็นแท็กซี่มาเฟีย มาคุยกันได้เลย พวกตนไม่ใช่มาเฟีย

ด้านนายธนูทอง ปายา อายุ 54 ปี คนขับแท็กซี่ที่คิวเกิดเหตุ กล่าวว่า วันนั้นตนอยู่ในเหตุการณ์ ข่าวลงว่าพวกตนไปล้อมรถ จะนำลูกค้าลงจากรถ อันนั้นไม่ได้เป็นความจริง แค่บอกว่าครั้งนี้คุณเอาลูกค้าไปได้ แต่ครั้งต่อไปทำแบบนี้ไม่ได้นะ เขาก็รู้ว่าเขาผิด แต่ในการเขียนข่าวไม่เป็นความจริง พวกตนไม่ได้เป็นมาเฟีย ไม่ใช่อะไรก็แท็กซี่มาเฟีย เบื่อแล้ว อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่บ้านเมืองช่วยพวกเราหน่อยเถอะ เราแค่ชาวบ้านทำมาหากิน

ขณะที่ นายกรณ์พิทักษ์ อาสน์สุวรรณ หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่ง กล่าวว่า จากข้อมูลในสื่อโซเชียล คือเป็นรถแท็กซี่ทะเบียนกรุงเทพฯ เข้ามารับผู้โดยสารที่เซ็นทรัล ก็มีการเข้าใจคลาดเคลื่อนในการรับผู้โดยสาร จุดตรงนี้เป็นจุดบริการแท็กซี่ของห้างอยู่แล้ว พอดีมีรถแท็กซี่นอกรับจ้างเข้ามา ก็เลยทำให้ปะทะคารมกัน เข้าใจผิดในระเบียบขนส่งการรถรับจ้าง ไม่ได้ห้ามที่จะเข้ามาส่ง แต่ประเด็นเมื่อมาส่งแล้วต้องกลับ ประเด็นพูดที่ขับรถแท็กซี่ป้ายต่างจังหวัด คือเข้ามาส่งในจังหวัดภูเก็ตแล้วก็ต้องกลับ ซึ่งสถานที่ตั้งของคิวรถบริการของห้าง เขามีคิวของเขาอยู่แล้ว โดยทางขนส่งก็เรียกเข้ามาสอบถามแล้วดำเนินตามขั้นตอนต่อไป.