เมื่อวันที่ 27 มี.ค. นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่มีผู้รับประทานแมลงทอดแล้วเกิดอาการแพ้รุนแรง นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีความห่วงใย เนื่องจากกระแสความนิยมรับประทานแมลงมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และมีรายงานว่า แมลงรับประทานได้นั้น อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ มีกรดไขมันที่ดี และเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยแมลงที่นิยมรับประทาน เช่น ดักแด้ หนอนไหม ตั๊กแตนแคระ หนอนไม้ไผ่ แมงดานา และจิ้งหรีด เป็นต้น แต่อาจทำให้ผู้บริโภคมีความเสี่ยงจากการรับประทานแมลง เช่น การแพ้จากฮีสตามีน (Histamine) แม้ว่าได้รับในปริมาณเพียงเล็กน้อย ร่างกายอาจตอบสนองเร็วกว่าคนอื่น ทำให้มีอาการผิวหนังอักเสบ มีผื่นคัน ชาหรือคันบริเวณริมปาก ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน หอบหืด หรืออาจถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิต สำหรับปริมาณฮีสตามีนที่พบในดักแด้ หนอนไหม อาจมากถึง 875 มิลลิกรัม/กิโลกรัม หรือถ้าอาหารนั้นมีการปนเปื้อนแบคทีเรียบางชนิดที่สามารถเปลี่ยนกรดอะมิโนฮีสติดีนไปเป็นฮีสตามีนได้ นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากสารกำจัดศัตรูพืช เช่น อาจพบสารกลุ่มคาร์บาเมตในตั๊กแตนทอด ซึ่งอาการขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการเกิดพิษ เช่น อาการปวดศีรษะ เหงื่อออกมาก อาเจียน ท้องเสีย กล้ามเนื้อสั่น ม่านตาหด ถ้าไม่ได้รับการรักษาโดยทันที จะเสียชีวิตในที่สุด

การแพ้อาหารเป็นลักษณะเฉพาะของบุคคล หากผู้บริโภคเป็นโรคภูมิแพ้ หรือมีประวัติเป็นภูมิแพ้หรือหอบหืด ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานแมลง สำหรับผู้บริโภคทั่วไปสามารถรับประทานผลิตภัณฑ์แมลงได้ แต่ควรสังเกตตนเองเมื่อรับประทานแมลงชนิดใดแล้ว เคยมีอาการผิดปกติภายใน 2-7 ชั่วโมง ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานแมลงชนิดนั้น วิธีรับประทานแมลงทอดให้ปลอดภัย สำหรับผู้บริโภคทั่วไปที่ไม่มีอาการแพ้ สังเกตว่าแมลงทอดดังกล่าว เป็นแมลงที่รู้จักกันทั่วไปหรือไม่ ควรปรุงให้สุกก่อนรับประทาน หรือเลือกซื้อจากแหล่งผลิต หรือแหล่งจำหน่ายที่ถูกสุขลักษณะ สำหรับผลิตภัณฑ์จากแมลง หรืออาหารที่มีส่วนประกอบของแมลงในภาชนะบรรจุ จะต้องแสดงฉลากตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยเรื่องการแสดงฉลากของอาหารในภาชนะบรรจุ เช่น ชื่ออาหาร เลขสารบบอาหาร สูตรส่วนประกอบ ชื่อที่ตั้งผู้ผลิต/ผู้นำเข้า วันเดือนปีที่ผลิต หรือควรบริโภคก่อน และข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร เป็นต้น