เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ว่าได้ซักซ้อมกับผู้ที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร ในฐานะเจ้าของพื้นที่ การไฟฟ้านครหลวง และสำนักงาน กกต. เพื่อรับมือพรรคการเมืองที่จะมาสมัคร เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมถึงอำนวยความสะดวกแก่พรรคการเมืองและผู้สนับสนุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งน่าจะมีความพร้อม
ทั้งนี้ การรับสมัครจะมีขึ้นที่อาคารไอราวัตพัฒนา เขตดินแดน กรุงเทพฯ เริ่มรับสมัครวันที่ 4-7 เม.ย. 66 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. โดยการจับสลากหมายเลขผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ ใครที่มาก่อนเวลา 08.00 น. จะได้สิทธิการจับสลาก แต่ถ้าหากใครมาหลังเวลาดังกล่าวก็จะได้หมายเลขเรียงลำดับถัดไป ทั้งนี้ เงื่อนไขการลงสมัครแบบบัญชีรายชื่อ พรรคการเมืองจะต้องผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งก่อน ส่วนการรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 กรุงเทพฯ เริ่มรับสมัครวันที่ 3-7 เม.ย. 66 เวลา 08.30-16.30 น. ซึ่งจะมีผู้อำนวยการเขตเลือกตั้งแต่ละเขตจะเป็นผู้รับสมัคร โดยจะเป็นคนละส่วนความรับผิดชอบกับสำนักงาน กกต.
สำหรับจังหวัดอื่นๆ ขึ้นอยู่กับผู้อำนวยการ กกต.แต่ละจังหวัดจะเป็นผู้กำหนด อย่างไรก็ตาม สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 66 จะใช้รูปแบบบัตรลงคะแนน 2 ใบ ประกอบด้วยบัตรลงคะแนนผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต และบัตรลงคะแนนผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งจะไม่ใช่เบอร์เดียวกัน แต่ก็มีความเป็นได้ที่จะได้เบอร์เดียวกันทั้ง 2 ใบ ในกรณีที่จับสลากได้หมายเลขเดียวกัน
นายแสวง กล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองกลางนัดไต่สวนกรณีการแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต. ในวันที่ 30 มี.ค. 66 ว่า เรื่องนี้อยู่ในชั้นศาลตนยังพูดอะไรมากไม่ได้ แต่ยืนยันว่าเราทำตามรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ในการแบ่งเขต ทั้งนี้ กกต.ได้มอบหมายให้ผู้แทนไปชี้แจง อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับศาลว่าจะพิจารณาอย่างไร
นายแสวง ยังกล่าวถึงการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าว่า เราเตรียมระบบไว้ดีแต่ชี้แจงประชาชนไม่ละเอียด ทำให้ช่วงแรกเกิดความสับสนอยู่บ้าง แต่ตอนนี้น่าจะแก้ไขแล้ว ทั้งในส่วนสำนักงาน กกต. และสื่อมวลชนที่ชี้แจงต่อประชาชน น่าจะเป็นระบบและเป็นไปได้ด้วยความเรียบร้อยแล้ว ส่วนปัญหาการลงทะเบียนแล้วระบบผิดพลาดให้ใช้สิทธิในวันที่ 14 พ.ค. 66 แล้วไม่สามารถยกเลิกได้นั้น ตอนนี้สำนักงานทราบเรื่องแล้ว และจะนำไปแก้ไขเพื่อรักษาสิทธิของประชาชนโดยเร็ว ส่วนกรณี นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย ออกมาตั้งข้อสังเกตว่าคนไทยในบางประเทศลงทะเบียนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรแล้วแต่มีการกำหนดวันเลือกตั้ง ในวันที่ไม่ใช่วันหยุดนั้น นายแสวง กล่าวว่า ได้รับทราบข้อมูลแล้ว สำนักงานก็ต้องพูดคุยว่าเป็นอย่างไร บางทีเป็นความเห็นไม่ใช่ข้อเท็จจริง อาจจะต้องดูเงื่อนไขตามกฎหมายด้วย แต่ก็เป็นหนึ่งเสียงที่เราต้องรับฟังเหมือนกัน
เมื่อถามว่า กรณีตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้ง กกต.จะมีกระบวนการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้นหรือไม่ เพราะในการเลือกตั้งปี 62 มี ส.ส.ที่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติหลังเลือกตั้ง นายแสวง กล่าวว่า เราตรวจมาตรฐานเดียว โดยได้รับความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน ประมาณ 26 หน่วยงาน โดยมีการซักซ้อมกันแล้ว เราจะตรวจตามมาตรฐาน ทั้งนี้ คุณสมบัติบางเรื่องไม่ได้อยู่ในหน่วยงานของรัฐที่สามารถตรวจสอบได้ แต่เป็นเรื่องส่วนตัวของเขาเอง กฎหมายถึงต้องเขียนว่ารู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิมาใช้สมัคร บางเรื่องเราไม่สามารถตรวจสอบได้เพราะอยู่นอกเหนือฐานข้อมูลราชการ
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในการสมัครรับเลือกตั้งที่กำลังจะถึงนี้ พรรคการเมืองมีความระวัง โดยวิธีปฏิบัติ พรรคการเมือง หรือผู้สมัครจะมีการประสานกับ ผู้อำนายการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเพื่อดูหลักฐานก่อนส่วนหนึ่ง ขณะที่ หัวหน้าพรรคเองก็มีการส่งข้อมูลให้กกต.ตรวจสอบก่อนในระดับหนึ่ง เพียงแต่บางอย่างผู้สมัครเองอาจจะหลงหรือมาเจอทีหลัง อย่างไรก็ตามส่วนมากจะไม่เกิดเรื่องอย่างนี้ แต่เรื่องที่ไปที่ศาลฎีกามากที่สุดคือเรื่องความเป็นสมาชิกของพรรคการเมือง ซึ่งช่วงนี้ต้องเป็นสมาชิกพรรค 30 วันก่อนถึงวันเลือกตั้ง สำหรับที่มีการย้ายพรรค เรามีระบบฐานข้อมูลดูอยู่แล้ว.