ดร.วีระ แข็งกสิการ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ เกือบสิ้นใจคาสนามฟุตบอล จากการลงเตะฟุตบอลที่สนามบุณยะจินดา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 มี.ค. ที่ผ่านมา

ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ โพสต์เฟซบุ๊ก ภาพเหตุการณ์ทีมแพทย์ช่วยชีวิตตนเอง ที่นอนแผ่ไปกับพื้น พร้อมเล่านาทีทักมัจจุราชว่า ตนเองไปเล่นฟุตบอล ขณะเดินออกล้มลงไป หัวใจหยุดเต้นไปแล้ว ยื้อกันอยู่นาน ได้เครื่อง AED ช่วย จนฟื้นมาได้ ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลตลอดชีวิต

ข้อความว่า

เมื่อมัจจุราชให้โอกาส ตายไปนานมาก ปั้มหัวใจไม่ฟื้น แต่เทวดาฟ้าดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือบุญทำให้ฟื้นขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์

ข่าวการตายของผมแพร่สะพัดไปเร็วมาก ขอบคุณทุกความห่วงใย

ปกติชีวิตของผมจะเดินสายกลาง กินพอดี อยู่พอดี ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ มีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายสายกลาง มาโดยตลอด แต่มีสิ่งหนึ่งที่เป็นการกระทำที่ไม่พอดี เป็นวิถีสุดโต่ง ทำมากเกินไป นั่นก็คือการแข่งฟุตบอล ผมเล่นฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ เล่นฟุตบอลโดยไม่สนใจอายุ และสังขาร เล่นฟุตบอลจนหัวข้อเข่าพัง เดินผิดปกติ เพื่อนฝูง เมียและลูกๆ เตือนอย่างไรก็ไม่ฟัง จนสุดท้าย ก็ถึงวาระสุดท้ายของชีวิตที่เกิดจากการเล่นฟุตบอลจนได้

ผมแข่งขันฟุตบอล จนหัวใจวาย หัวใจหยุดเต้น และตายกลางสนามฟุตบอล

มีข้อความ ที่ส่งต่อในไลน์ไปทั่วดังนี้

….

แจ้งข่าวพี่ ๆ นักบอลครับ เมื่อเย็นวานผม พี่อ้วน และพี่วีระ ไปช่วยเล่น/ซ้อมให้กับทีมพี่ ๆ vip ndc วปอ. กับ vip ตำรวจ ที่สนามบุณยะจินดา พี่อ้วนเล่นก่อน/กลับก่อน เพราะมีงานเลี้ยงรุ่นต่อ ผมวิ่งเบา ๆ รอบสนามเพื่อรอเล่น Q4 (ควอเตอร์ 4) อีก ขณะที่พี่วีระกำลังเล่นถึงปลาย Q3 ได้ล้มฟุบลงไป & ไม่รู้สึกตัว เจ้าหน้าที่สนามช่วยกันปั๊มหัวใจ & เรียกรถ 1669 ส่ง รพ.จุฬาภรณ์ ศูนย์ราชการ ตอนนี้อาการปลอดภัย พูดคุยได้ อยู่ห้อง ICU ศูนย์การแพทย์จุฬาภรณ์ คาดว่าจะต้องเข้ารับการรักษา/ตรวจเช็dร่างกายโดยละเอียด อย่างน้อย 3 วัน ป.ล. พี่วีระช่วยทีมยิงไป 2 ลูก

ผมไม่เห็นตอนฟุบ ปลาย Q3 ผมวิ่งเบา ๆ รอบสนาม จนเกือบครบรอบ มองไปเห็นมีคนนอนอยู่ จำได้ว่าว่าเป็นพี่วีระ เพราะเสื้อไม่เหมือนใคร มี จนท. มาช่วยปั๊มหัวใจ 3 คน ใช้เวลาปั๊มประมาณ 20 นาที ขึ้นแล้วลงไปอีก ต้องบอกว่าโชคดีมาก ๆ ที่ได้เครื่อง AED จากรถฉุกเฉินของ ตชด. มาช่วยให้ฟื้นเร็วขึ้นครับ

สอบถามพี่ ๆ ที่เล่นอยู่ บอกว่า พี่วีระขอเปลี่ยนตัว กำลังเดินออก แล้วนั่งลง ยังไม่พ้นสนามก็นอนฟุบไปเลย

….

นั่นคือเหตุการณ์ การตายของผม หัวใจผมหยุดเต้น หมดสติ หยุดหายใจไปนานแสนนาน คุณหมอ พยาบาล มาบอกภายหลังว่า โชคดีมาก ตัวเขียว หน้าดำคล้ำ อาการแบบนี้ โอกาสจะรอดน้อยมากๆ นี่คุณโชคดีเหลือเกิน ปาฏิหาริย์มาก

ย้อนมาดูข่าว นักการเมืองดัง แถวสมุทรปราการที่เสียชีวิต ท่านเสียชีวิตในวัย 55 ปี หลังเกิดภาวะ โรคหัวใจและฮีทสโตรก ท่านเกิดปี 2511 ปีเดียวกับผม ทั้งยังอายุ 55 ปี เท่ากับผมอีกด้วย ซ้ำลูกสาวผม กับลูกสาวท่าน ยังชื่อ เพลง เหมือนกันด้วย น่าแปลกนะครับ

ตามตำราจีน คนอายุเลขคู่ มักต้องระมัดระวังตัวอย่างยิ่ง ว่าจะเสียชีวิต พ่อผมตาย อายุ 66 ปี หัวหน้าปทุม นามโสวรรณ์ มางานศพพ่อผม บ่นทำไมพ่อตายเร็ว หัวหน้าปทุม ตายอายุ 55 มี ผอ.ปรเมษฐ์ ที่อำเภอแม่วงก์ ตาย อายุ 44 ปี และมีอีกหลายคน หลายตัวอย่างของการตายที่อายุ เลข คู่ เช่น 66 77 88 เป็นต้น เพราะฉนั้นใครเลขคู่ โบราณเขาให้ให้ระมัดระวังตนเอง (ไม่เชื่ออย่าลบหลู่)

ซึ่งเหตุการณ์การตายของนักการเมืองดังจังหวัดสมุทรปราการ นี้เกิดไล่เลี่ยการตายของผม เลย ย้อนดูอายุ ก็ 55 ปีเท่ากัน เกิดปี 2511 ปีเดียวกันอีก แต่ตัวผม ผมตายไปแล้วจากการที่เส้นเลือดในหัวใจอุดตัน จำนวน 3 เส้น ตายขณะเล่นฟุตบอลกลางสนาม ตายเพราะระบบโรคหัวใจเช่นเดียวกันกับคุณชนม์สวัสดิ์ เลย

ที่ผ่านมาผมไม่ได้เป็นโรคหัวใจ เนื่องจากผมตรวจสุขภาพตลอดทุกปี ตรวจทั้งปกติ และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ก็ไม่พบอาการผิดปกติ ผมจึงมั่นใจในชีวิต ลงเล่นฟุตบอลด้วยความคึกคะนอง

วันก่อนสึกมาไม่กี่วัน ผมไปแข่งในนามทีมรวมภัค ชนะ ทีมศิษย์เก่าสวนกุหลาบ 5-4 ผมคนเดียวยิง 3 ประตู สองสามวันก่อนเล่นฟุตบอล วปอ. ชนะ 2-1 ผมยิง 1 ประตู วันเกิดเหตุ เล่นทีม วีไอพี วปอ. แข่งกับทีม สโมสรตำรวจ ผมยิง ไป 2 ประตู แต่ก็มาฟุบลงเสียชีวิต หัวใจหยุดเต้น กลางสนามฟุตบอลที่ตัวเองลุ่มหลง ที่ตัวเองรักนักรักหนา

ผมหัวใจหยุดเต้น ผมตายไปแล้ว ผมเสียชีวิตอย่างสมบูรณ์

แต่มัจจุราช หรือมารยังให้โอกาส ท่านอาจมาตรวจดูชื่อและเงินในกระเป๋าแล้วพบว่า ไอ้คนนี้ ถึงจะเกิด ปี 2511 เหมือนกันก็จริง ถึงจะอายุ 55 เหมือนกันก็จริง ถึงจะลูกชื่อเดียวกันก็จริง แต่ไอ้คนนี้ มันโคตรจนเลย มีเงินในกระเป๋าไม่กี่ร้อย มียอดเงินในบัตรเครดิต ไม่กี่พัน มันจะใช่คนที่ตามหาหรือ เอไม่น่าใช่ ปล่อยมันกลับไปดีกว่า ผมเลยฟื้นมาได้

ปาฏิหาริย์มีจริง บุญกุศลมีจริง ดวงชะตาชีวิตผมปีนี้ดวงตกสุดๆ ตกเลข 1 จวบกับปีนี้ อายุ ตกเลขคู่ 55 ดวงเลวร้าย คูณสองเลยทีเดียว พระอาจารย์ ที่เคารพนับถือ ครูบาอาจารย์ที่ผมเป็นลูกศิษย์ แนะนำให้ผมบวช สัก 3 เดือน เพื่อสะเดาะเคราะห์ ต่อชะตา แล้วชีวิตจะดีขึ้น

ผมจะบวชได้อย่างไร ผมเป็นรองปลัดกระทรวง ภารกิจเยอะแยะวุ่นวายไปหมด อย่างไรก็คงบวชไม่ได้

ปาฏิหาริย์ ที่ 1
นับเป็นความโชคดีที่สุด ที่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กรุณาย้ายให้ผมมาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ผมจึงมีเวลาว่างเพื่อบวชได้ ตามที่พระอาจารย์ทักมา

ปาฏิหาริย์ที่ 2
ผมมีกำหนดการแข่งบอล 2 สนาม คือสนาม ทีโอที แจ้งวัฒนะ กับสนามบุณยะจินดา ถ้าผมเลือกไปสนามแจ้งวัฒนะ คงเสียชีวิตแน่นอน เพราะคงไม่มีใครช่วยได้ โชคดีของผมที่เลือกมาแข่งสนามบุณยะจินดา แข่งกับทีมอาวุโส ตำรวจ ทีมตำรวจ มีพยาบาลมาดูแลเจ้านายอาวุโสของเขา พยาบาลคนนี้ยศร้อยตำรวจเอกเลยทีเดียว พยาบาลที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี มาช่วยปั๊มผมถึงสามคน

ปาฏิหาริย์ ที่ 3
ปั๊มหัวใจอย่างไรก็ไม่ขึ้น ขึ้นมาแล้วก็วูบไปอีก ปาฏิหาริย์ที่ 3 มีรถตำรวจตะแวนชายแดนทีมี อุปกรณ์ช่วยชีวิต AED เครื่องกระตุ้นหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ ติดรถมาด้วย ดวงดีจริงๆ อุปกรณ์นี้จึงมาช่วยให้รอดตาย เพราะที่สนามก็มี AED เช่นเดียวกัน แต่อยู่ในห้อง ไม่มีลูกกุญแจไขเข้าไปเอาได้ โชคดีที่ในรถ ตชด. มี AED ติดรถมาด้วย

พยาบาลผู้ช่วยชีวิตเล่าว่า
“ผมถูกปั๊มหัวใจอยู่นานมาก หลายรอบ แต่ก็ไม่มีท่าทีจะฟื้นคืนสติ พยาบาลน่าจะเริ่มถอดใจ หน้าผมเริ่มดำ เขียว ตัวเริ่มคล้ำดำ เหมือนคนเสียชีวิต แต่ชีวิตถือว่ามีบุญมหาศาล ที่มีคนวิ่งไปเอา AED จากรถตำรวจตะเวนชายแดน ที่ติดรถมาด้วย มาช็อต กระตุ้น จนฟื้นคืนสติมาได้”

นำผมขึ้นรถ 1669 เพื่อส่งตัวไปโรงพยาบาล ผมรู้สึกตัวบนรถ ลืมตาขึ้นมา พยายามคิดนึกว่า มาอยู่บนรถนี้ได้อย่างไร แต่ด้วยความที่ไม่หายใจไปยาวนานมาก จึงเรียบเรียงเรื่องราวไม่ได้ นอนงงอยู่บนรถคันนั้น

ปาฏิหาริย์ ที่ 4
มาถึงโรงพยาบาล ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งความเชื่อเดิมที่นี่คือศูนย์รักษามะเร็งที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย เราไม่ทราบว่าที่นี่ ได้เปิดศูนย์โรคหัวใจ ที่มีอุปกรณ์สมบูรณ์ที่สุด คุณหมอได้นำผมเข้าห้องฉีดสี พบว่าเส้นเลือดหัวใจตีบ 3 เส้น แต่ด้วยความพยายามที่จะส่งเลือดไปเลี้ยงร่างกาย เส้นเลือดก็พยายามแยก เป็นเส้นฝอย เส้นแขนงเยอะแยะไปหมด หมอกรุณา ช่วยชีวิตโดยการทำบอลลูนเร่งด่วน และใส่ขดลวดให้ 1 เส้นก่อน ซึ่งใช้เวลา หลายชั่วโมง ผมรู้สึกตัวบ้าง ไม่รู้สึกตัวบ้าง รู้แต่ว่าทุกคนแวดล้อมเราดูมีสีหน้าตกใจสุดขีด ตกใจว่า ผมเสียชีวิตแล้ว

พยาบาลสาว 2 คนที่มาเยี่ยมวันนี้ เล่าให้ผมฟังว่า ท่านเสียชีวิตไปแล้วคะ ตายแล้วจริงๆ แต่ผมเชื่อมั่นว่า ด้วยคุณความดีที่ผมปฏิบัติมา ด้วยอำนาจแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณที่ปฏิบัติมาสามเดือนที่ผ่านมา ชะตาชีวิตจึงเกิดปาฏิหาริย์ ต่างๆ ขึ้น

มัจจุราชให้โอกาสมีชีวิตอยู่ ให้โอกาสคนๆ หนึ่งใช้ชีวิตต่อไป
เมื่อมารให้โอกาส เราก็จำต้องให้โอกาสตัวเองด้วย ตั้งแต่นี้ต่อไป จะปฏิบัติดังนี้

1. จะเลิกเล่นฟุตบอล จะหากีฬาที่พอดีกับสุขภาพ
2. ชีวิตระหว่างการอยู่กับการตายมันมีเส้นบางๆ กั้นอยู่ ชีวิตที่เหลือของตั้งใจจะไม่ทำชั่วทั้งมวล ทำแต่ความดี ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส ผุดผ่อง
3. จะขอโอกาสทำหน้าที่ อย่างดีที่สุดเพื่อตอบแทนการให้โอกาสนี้
4. จะตั้งใจทำตามคำแนะนำของแพทย์ พยาบาล และลูกๆอย่างเคร่งครัด ไม่ดื้อไม่เถียง
รักษาสุขภาพ ทานยาตรงตามแพทย์สั่ง

ผมตายแล้วผมฟื้นมาแล้วและผมจะเป็นคนใหม่แล้ว

ขอขอบคุณ
ท่านผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ท่านณัฐ สิงห์อุดม กับท่าน รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ และทีมงานสโมสรตำรวจทุกท่าน
ขอบคุณทีมพยาบาลผู้ปั๊มหัวใจให้ฟื้นขึ้นมาได้
ทีมฟุตบอล วปอ. NDC วปอ. 64 พี่จิ๋ว พี่อ้วน
ขอบคุณ 1669 สายด่วน
ขอบคุณศูนย์แพทย์ โรงพยาบาลราชวิทยาลัย จุฬาภรณ์ แพทย์ พยาบาล นักเทคนิคการแพทย์ นักกายภาพทุกคน
ขอบคุณเมีย ลูกๆ ที่ดูแลอย่างใกล้ชิด
ขออภัย
ที่ไม่ตอบไลน์ ไม่รับโทรศัพท์
เพราะโทรศัพท์ถูกจำกัดการเล่น ครับ

(ขอบคุณเฟซบุ๊ก วีระ แข็งกสิการ)