นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมสัมมนา Space x Digital : Driving Thailand toward the New Economy” ว่า สดช. ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจในการจัดทำนโยบายด้านกิจการอวกาศของประเทศ ได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของการส่งเสริมระบบนิเวศของเศรษฐกิจอวกาศที่ครอบคลุมห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมอวกาศ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ไม่น้อยไปกว่าการพัฒนาด้านเทคโนโลยีดิจิทัล
โดยที่ผ่านมาภาครัฐได้มีการจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อรองรับกิจการและกิจกรรมอวกาศ เช่น ดาวเทียม สถานีภาคพื้นดิน ศูนย์การเรียนรู้ วิจัย และพัฒนานวัตกรรม เป็นต้น และได้ทำประชาพิจารณ์สาธารณะ (พับบลิค เฮียริ่ง) ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ในเรื่อง การจัดทำร่างพระราชบัญญัติกิจการอวกาศแห่งชาติ พ.ศ. …. และร่างแผนแม่บทกิจการอวกาศแห่งชาติ (พ.ศ. 2566-2580) ซึ่งจะมีการปรับแผนให้สอดคล้องกับบริบทของเทคโนโลยีทุกๆ 5 ปี ตลอดจนการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอวกาศ และการสร้างนวัตกรรมจากเทคโนโลยีอวกาศ
“กิจการอวกาศของประเทศไทย ซึ่งอยู่ในระยะเริ่มแรกหลังจากการเปลี่ยนผ่านจากระบบการให้สัมปทานเป็นระบบการอนุญาต จึงมีความจำเป็นที่จะต้องกำหนดนโยบายหรือทิศทางในการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินกิจการ หรือกิจกรรมอวกาศให้มีความชัดเจน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวไปสู่การเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจอวกาศ ที่สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศและผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพในการแข่งขันด้านอวกาศของตลาดโลกได้”

นายภุชพงค์ กล่าวต่อว่า ภายในปี 66 นี้ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการอวกาศจะต้องเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งรวมถึงการจัดตั้ง สำนักงานกิจการอวกาศที่มีสถานะเป็นองค์การมหาชน ที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติ จึงต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาชุดใหม่ (สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา) เพื่อพิจารณาก่อน โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์กรมหาชน) หรือ จิสด้า เป็นหน่วยงานหลักในการตั้งสำนักงานใหม่ และตัดโอนภารกิจจากส่วนราชการอื่น เช่น กองกิจการอวกาศแห่งชาติ ของสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ให้อยู่ในร่มเดียวกัน เพื่อขับเคลื่อนภารกิจของภาครัฐให้เป็นเอกภาพและเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพื่อทำให้เกิดรายได้อย่างยั่งยืน จากที่เคยมีสถิติว่าเม็ดเงิน ในอุตสาหกรรมดาวเทียมที่เกี่ยวเนื่องมีมากกว่า 3 แสนล้านบาทในอีก 10 ปีข้างหน้า
“การประชุมสัมมนาครั้งนี้เพื่อรับทราบแนวคิดในการส่งเสริมระบบนิเวศเศรษฐกิจอวกาศยุคใหม่ของประเทศ และการนำเสนอ (ร่าง) แผนการส่งเสริมระบบนิเวศเศรษฐกิจอวกาศยุคใหม่ หรือ New Space Economy ของประเทศไทย รวมถึงเป็นการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อไปปรับปรุง (ร่าง) แผนการส่งเสริมฯ ให้มีความครบถ้วน และสมบูรณ์ สามารถใช้เป็นกรอบแนวทางในการส่งเสริมระบบนิเวศเศรษฐกิจอวกาศของประเทศไทย ได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป”
ขณะที่ ดร.พรพรรณ ตันนุกิจ ผู้อำนวยการกองกิจการอวกาศแห่งชาติ สดช. กล่าวเสริมว่า โครงการพัฒนาแผนการส่งเสริมระบบนิเวศเศรษฐกิจอวกาศยุคใหม่ของประเทศไทย เป็นการตอบสนองต่อการขยายตัวของกิจการและกิจกรรมอวกาศ รวมไปถึงอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องที่เกิดจากการประยุกต์ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอวกาศ ที่เน้นให้ภาคเอกชนเป็นผู้ขับเคลื่อนกิจการและกิจกรรมอวกาศ โดยมุ่งสร้างนวัตกรรมเพื่อประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน