เมื่อวันที่ 7 เม.ย. นายศรัณญู หรือป๊อป อายุ 39 ปี และ น.ส.ณัฐภัสสร หรือ พลอย อายุ 35 ปี 2 สามีภรรยา เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน หลังถูกป้าหัวร้อนมายืนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายหน้าบ้าน ซึ่งเปิดเป็นเนอร์สเซอรี่ สถานรับเลี้ยงเด็ก ที่ตั้งอยู่ภายในซอยเลี่ยงเมืองนนทบุรี 15 แยก 10 ถนนสนามบินน้ำ ต.ตลาดขวัญ อำเภอเมือง จ.นนทบุรี จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรียกตัวป้าหัวร้อนรายนี้มาอบรมว่ากล่าวตักเตือน เพราะไม่อยากให้มีพฤติกรรมทำแบบนี้ เนื่องจากที่บ้านรับเลี้ยงเด็กไว้กว่า 20 คน ตนทั้งสองเกรงจะเกิดเหตุไม่ดีขึ้นได้ในภายหน้า

โดยภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพป้าหัวร้อนเพื่อนบ้านคนนี้ ไม่พอใจเดินมาที่หน้าบ้าน หลังจากมีเสียงเด็กส่งเสียงดังแล้วร้องไห้ ทำให้ป้าเดินจากบ้านมาตะโกนด่าหยาบคาบเป็นสัตว์เลื้อยคลานจำนวนมาก ด้วยเสียงอันดัง บางครั้งก็กวาดใบไม้แห้งจนฝุ่นฟุ้งกระจายเข้าไปในเนอร์สเซอรี่ พอรถถอยหลังออกตั้งลำได้ ป้าหัวร้อนรายนี้ก็ยกเท้าใส่คนขับรถ ซึ่งส่วนมากเป็นผู้ปกครองที่มารับบุตรหลานที่เนอร์สเซอรี่ ตามที่ปรากฏในคลิปวงจรปิด

คุณพลอย เล่าว่า ตนกับสามีได้มาขอซื้อที่ดินจำนวน 170 ตารางวา จากครอบครัวของป้าหัวร้อนในราคา 6 ล้านกว่าบาท เมื่อปี 59 โดยแจ้งความประสงค์ว่า จะเปิดสถานรับเลี้ยงเด็กเนอร์สเซอรี่ ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร มาระยะหลัง จู่ๆ คุณป้าหัวร้อนเพื่อนบ้าน ไม่ทราบไม่พอใจอะไร มักแสดงกิริยาอาการไม่พอใจตนทั้งสองคน แทบทุกวันจะเปิดเครื่องเสียงดังกระหึ่มออกจากในบ้าน ส่งเสียงรบกวนเด็กๆ บางครั้งก็เอาเศษใบไม้แห้งมากองสุม แล้วกวาดให้ฝุ่นฟุ้งกระจัดกระจาย จนเข้ามาในเนอร์สเซอรี่ สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จุดประสงค์ที่ตนเองไปแจ้งความ ไม่ได้ต้องการให้ดำเนินคดีอะไรกับตัวคุณป้ารายนี้ เพียงแต่อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจห้ามปราม หรือว่ากล่าวตักเตือนไม่อยากให้มาทำแบบนี้ เพราะครอบครัวและเด็กเล็กๆ ได้รับความเดือดร้อนกับการกระทำ

ด้านสามีคุณพลอย กล่าวว่า สถานรับเลี้ยงเด็กแห่งนี้ ตนติดตั้งกล้องวงจรปิดนับ 10 ตัว ระบบความปลอดภัยความสะอาดสะอ้าน สภาพสิ่งแวดล้อมจัดทำไว้อย่างดีเยี่ยม บุคคลคนภายนอกจะไม่ให้เข้ามาอย่างเด็ดขาด นอกจากผู้ปกครองที่มารับบุตรหลาน เรื่องที่ป้าหัวร้อนข้างบ้านมายืนตะโกนด่า และทำหยาบคายนั้น ก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมถึงทำแบบนี้ เพราะก่อนหน้าที่จะซื้อที่ดินจากครอบครัวของป้า ตนกับภรรยา ก็บอกไว้แล้วว่า จะเปิดเป็นสถานรับเลี้ยงเด็ก ซึ่งครอบครัวเขาก็เข้าใจ แต่ทำไมคุณป้าถึงทำพฤติกรรมแบบนี้ ทำเหมือนไม่รักเด็ก ดังนั้นอยากขอความเห็นใจบ้าง

เวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่หน้าบ้านของป้าหัวร้อนคนดังกล่าว และตะโกนสอบถาม เพื่อต้องการทราบข้อเท็จจริง ปรากฏว่าป้าหัวร้อน ได้เดินออกมาโบกไม้โบกมือ พร้อมบอกว่า ไม่ได้ด่าสองสามีภรรยาแต่อย่างใด ก่อนจะเดินเข้าบ้านไป โดยไม่ให้สัมภาษณ์