สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ว่า ซัมซุงประมาณการว่า กำไรจากการดำเนินงานของบริษัทลดเหลือ 600,000 ล้านวอน (ราว 15,500 ล้านบาท) ในเดือน ม.ค.-มี.ค. ที่ผ่านมา จากเดิมที่ 14.12 ล้านล้านวอน (ราว 365,000 ล้านบาท) ของปีก่อนหน้า ในงบกำไรขาดทุนเบื้องต้น นับเป็นผลกำไรต่ำสุดของไตรมาสใด ๆ ในรอบ 14 ปี
“อุปสงค์หน่วยความจำลดลงอย่างมาก เนื่องจากสถานการณ์ในเศรษฐกิจมหภาค และความเชื่อมั่นในการซื้อของลูกค้าที่ชะลอตัว เพราะลูกค้าหลายรายยังคงปรับสินค้าคงคลังเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเงิน” ซัมซุง กล่าวเพิ่มเติมในแถลงการณ์ว่า บริษัทกำลังลดการผลิตชิปหน่วยความจำในระดับที่มีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลิตภัณฑ์ซึ่งมีการรับประกันสินค้า
Samsung Electronics to cut production as Q1 OP is projected to fall 96% y/y#Samsung_Electronics #chip_industry #Economy #operatingprofit #semiconductor #반도체 #삼성전자 #영업이익 #경제 #Arirang_News #아리랑뉴스 pic.twitter.com/6W12bYyi4g
— Arirang News (@arirangtvnews) April 7, 2023
ทั้งนี้ สัญญาณของการลดการผลิตชิปมีความชัดเจนอย่างผิดปกติสำหรับซัมซุง ซึ่งก่อนหน้านี้ บริษัทกล่าวว่า จะดำเนินการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย เช่น การหยุดสายการผลิตสินค้าปรับปรุงใหม่เป็นการชั่วคราว แต่ไม่ใช่การปรับลดทั้งหมด
เนื่องจากความต้องการอุปกรณ์เทคโนโลยีของผู้บริโภคซบเซา เพราะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ผู้ซื้อเซมิคอนดักเตอร์จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูล รวมถึงผู้ผลิตสมาร์ตโฟนและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ต่างละเว้นจากการซื้อสินค้าใหม่ และใช้สินค้าที่พวกเขามีอยู่จนหมด
ด้านนักวิเคราะห์หลายคนประมาณการว่า แผนกชิปจะขาดทุนรายไตรมาสมากกว่า 4 ล้านล้านวอน (ราว 103,500 ล้านบาท) เนื่องจากราคาชิปหน่วยความจำตกต่ำ และมูลค่าสินค้าคงคลังลดลง ซึ่งมันจะเป็นการขาดทุนรายไตรมาสครั้งแรก นับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2552 สำหรับธุรกิจที่สร้างกำไรเกือบครึ่งหนึ่งของผลกำไรของซัมซุง ในปีที่ดีกว่านี้.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES