สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ว่า องค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ออกแถลงการณ์ว่า กำลังเพิ่มการเฝ้าระวังเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ บี.1621 ( B.1621 ) ซึ่งมีชื่อเรียกเป็นอักษรภาษากรีกว่า "มิว" ( Mμ ) ปัจจุบันได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่ม "สายพันธุ์น่าจับตา" 
สำหรับเชื้อไวรัสมิวได้รับการยืนยันเป็นครั้งแรกในโคลอมเบีย เมื่อเดือน ม.ค.ปีนี้ หลังจากนั้นไม่นาน มีรายงานพบผู้ป่วยจากเชื้อดังกล่าวอีกในหลายประเทศแถบลาตินอเมริกา และบางประเทศในทวีปยุโรป ทั้งนี้ ดับเบิลยูเอชโอตรวจพบว่า รูปแบบการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสมิว "บ่งชี้ความเสี่ยงการต้านทาน" ต่อการทำงานของวัคซีน และการหลบหลีกระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายมนุษย์
รายงานระบุต่อไปว่า เชื้อไวรัสทุกชนิดบนโลก รวมถึงเชื้อไวรัสโคโรนาที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 มีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา แม้รูปแบบการกลายพันธุ์ส่วนใหญ่แทบไม่ส่งผล หรือมีผลกระทบน้อยมากต่อโครงสร้างของเชื้อไวรัส แต่ยังคงมี "การกลายพันธุ์บางรูปแบบ" ซึ่งก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างจำเพาะเจาะจงต่อคุณสมบัติของเชื้อไวรัส ซึ่งอาจมีผลต่อความเร็วในการแพร่กระจาย ความรุนแรงของอาการป่วย และการต้านทานต่อวัคซีน ยา และรูปแบบการรักษา
จริงอยู่ที่เชื้อไวรัสมิวยังต้องการการศึกษาอย่างละเอียดอีกมาก แต่ดับเบิลยูเอชโอมองด้วยว่า การที่เชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในเวลาไม่นาน อาจส่งผลให้อัตราการติดเชื้อทั่วโลกกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากเชื้อเดลตายังไม่สามารถถูกควบคุมได้ แต่นานาประเทศทยอยผ่อนคลายหรือถึงขั้นยกเลิกมาตรการควบคุมทางสังคมแล้ว.

เครดิตภาพ : AP