เปิดร้านอาหาร-ตัดผมวันแรกคึกคัก ผู้ค้าบ่นอุบเงื่อนไขฉีดวัคซีนครบยุ่งยาก

จากกรณีศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เป็นประธาน ได้มีมติเปิดกิจกรรม/กิจกรรม สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด อาทิ ร้านเสริมสวย ร้านตัดผมหรือแต่งผม เปิดได้เฉพาะตัดผมเท่านั้น ไม่เกิน 1 ชั่วโมง และร้านนวด เปิดได้เฉพาะนวดเท้า คลินิกเสริมความงาม เปิดจำหน่ายสินค้าเท่านั้น (อาจมีการนัดหมายส่วงหน้า เมื่อมีความพร้อม) ร้านอาหาร เปิดได้ตามเงื่อนไขของมาตรการ โดยผู้ประกอบการต้องดำเนินตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด และยังคงการเคอร์ฟิวไว้ตามเดิม ตามที่เคยเสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่การเปิดให้บริการของสถานประกอบการที่ได้รับอนุญาตจากทาง ศบค. โดยพบว่าร้านอาหารส่วนใหญ่ยังคงไว้ในรูปแบบเดิมในเรื่องของการให้บริการ ซื้อกลับบ้าน และยังมีการให้บริการในรูปแบบไรเดอร์ในการจัดส่งสินค้าและอาหาร ซึ่งร้านอาหารบางร้านเห็นว่าการที่รัฐบาลผ่อนคลาย ให้สามารถรับประทานภายในร้านได้แต่มีเงื่อนไขในเรื่องของผู้ใช้บริการต้องฉีดวัคซีนครบสองเข็มเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก เนื่องจากปัจจุบันนั้นมีประชากรที่ได้รับวัคซีนครบสองเข็มมีจำนวนน้อยอยู่

ขณะเดียวกันที่ร้าน THE ROAD BARBER SHOP ย่านห้วยขวาง พบว่า มีผู้มาใช้บริการตัดผมตั้งแต่ช่วงเช้าทันทีที่ร้านเปิด โดยจากการสอบถามช่างประจำร้านทราบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ได้โทรศัพท์นัดหมายเพื่อที่จะเข้ามาใช้บริการทันทีที่ทราบว่าจะมีการเปิดให้บริการร้านตัดผมในวันนี้ โดยผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ รู้สึกพอใจกับการที่ทางรัฐบาลนั้นมีการผ่อนคลาย เนื่องจากว่าไม่ได้ตัดผมกันมาเป็นเวลานานกว่าสองเดือน นอกจากนี้ในส่วนของทางร้านได้มีการเน้นย้ำในเรื่องของมาตรการความปลอดภัยตามที่รัฐบาลกำหนด โดยมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายแก่พนักงานทุกคนที่ให้บริการ รวมทั้งผู้ให้บริการ ขณะเดียวกันทั้งพนักงานและผู้รับบริการจะต้องใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย กำหนดให้พนักงานทุกคนล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ ก่อนและหลังให้บริการลูกค้าคนต่อไป และไม่มีการใช้มีดโกนทำความสะอาดทุกๆ ชม. รวมทั้งจำกัดการเข้าให้บริการ ซึ่งให้บริการไม่เกิน 1 ชม.

ส่วนที่ร้าน แต้จิ๋ว-ติ่มซำ เลขที่ 8/2 ถนนรามวิถีเขต เทศบาลนครสงขลา จ.สงขลา นางฉวีวรรณ คมขำ อายุ 44 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า วันนี้ได้ทำการเปิดร้านให้ลูกค้าเข้าไปนั่งทานในร้านได้เป็นวันแรก หลังจากที่ต้องปิดร้านมาเป็นเวลากว่า 2 เดือน เนื่องจากจังหวัดสงขลา เป็น 1 ใน 29 จังหวัดที่ถูกล็อกดาวน์ เนื่องจากเป็นพื้นที่สีแดงเข้มของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยบรรยากาศในร้านในวันนี้มีลูกค้าเดินทางเข้ามาสั่งอาหารข้าวมันไก่ หมูกรอบ ติ่มซำ มานั่งทานในร้าน ทำให้ร้านมีความคึกคักขึ้น หลังต้องปิดร้านมาเป็นเวลากว่า 2 เดือน ห้ามลูกค้าเข้ามาในร้านอย่างเด็ดขาด ในช่วงที่จังหวัดสงขลาถูกล็อกดาวน์

นอกจากนี้ทางร้านได้มีมาตรการต่างๆ ในการป้องกันโควิด-19 โดยเฉพาะในส่วนของพนักงานก็ได้รับการวัคซีนทุกคนแล้ว และก่อนที่จะเปิดร้านในวันนี้ได้มีการตรวจ ATK เรียบร้อยหมดทุกคนเช่นกัน และผลออกมาทุกคนไม่มีการติดเชื้อ เพื่อความปลอดภัย และให้ลูกค้าสบายใจได้ว่า ที่ร้านแต้จิ๋ว-ติ่มซำ ปลอดเชื้อ สามารถนั่งทานในร้านได้อย่างปลอดภัยแน่นอน รวมทั้งได้จัดที่นั่งทานเว้นระยะห่างตามที่กำหนดด้วย

“วันนี้รู้สึกดี อย่างน้อยจังหวัดสงขลาเราก็ได้ปลดล็อก ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของเมืองสงขลาเรา ไม่ว่าจะเป็นภัตตาคาร ร้านอาหาร หรือว่าร้านเสริมสวยอะไรต่างๆ ก็จะได้ฟื้นตัวขึ้น ก็อยากจะขอบคุณรัฐบาลที่ช่วยปลดล็อกให้พ่อค้าแม่ขายได้กลับมาคึกคักมีรายได้ แม้ว่าอาจจะไม่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ เหมือนเดิม แต่อย่างน้อยคาดว่า ก็น่าจะเกินครึ่ง ซึ่งก็พอที่จะประคองกิจการเดินหน้าต่อไปได้” เจ้าของร้านแต้จิ๋ว-ติ่มซำ กล่าว

ส่วนที่ร้านกรีนซีซั่น​ ซึ่งตั้งอยู่ภายในพีเพิลพาร์ค คอมมูนิตี้ ถนนอ่อนนุช ซอยสุขุมวิท71 แขวงและเขตสวนหลวง บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยด้านนางฐิติรัตน์ ชนะกุล อายุ 43 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า จากปัญหาการระบาดของโรคโควิดที่ผ่านมา ร้านตน ทั้ง 3 สาขา มีผลกระทบในเรื่องยอดขายที่ลดลงมากกว่า 50% ทั้งในเรื่องของสต็อกของสด และการดูแลพนักงานประจำ การที่ต้องปิดหน้าร้าน ทำให้ร้านจำเป็นจะต้องปรับตัว ทั้งเรื่องการดูแลรักษาควาสะอาดปลอดภัยและการวางแผนการตลาด เพื่อรองรับการขายแบบเดลิเวอรี่อย่างเดียว แต่ภายหลัง สคบ.มีคำสั่งคลายล็อค ทางร้านได้ มีกาตรวจโควิดโดย ใช้ชุดตรวจ ATK ตรวจพนักงานทุกคนด้วยก่อนเปิดให้บริการอีกครั้ง

นางฐิติรัตน์ กล่าวต่อว่า มีการเข้มงวด ในการจัดที่นั่งแบบเว้นระยะห่าง และมีการอบรมพนักงานให้ทำความสะอาด บริเวณที่ลูกค้าเข้ามานั่งใช้บริการ ทั้งก่อนและหลังเข้ามาที่ร้าอย่างถูกต้อง ในส่วนพนักงานที่ให้บริการ มีการรับการฉีดวัคซีนAZ เรียบร้อย สวมหน้ากาก+เฟสชิลด์ ตลอดเวลาทำงาน เพื่อความปลอดภัย และวันนี้ที่เปิดวันแรก มีลูกค้าให้ความสนใจ คิดถึง และกลับมาใช้บริการนั่งทานที่ร้านพอสมควร ส่วนอนาคตถ้่าเกิดมีการระเบิดขึ้นอีก ทางร้านก็พร้อมที่จะเตรียมมาตรการดูแลพนักงาน และรับมือกับการให้บริการลูกค้า ในรูปแบบใหม่ๆต่อไป เรายังคงยึดมั่น ในเรื่องความสะอาดปลอดภัยของอาหารที่ส่งให้ลูกค้าเป็นอันดับ 1 ไม่ว่าจะในรูปแบบเดลิเวอรี่ หรือนั่งทานที่ร้าน เราก็พร้อมจะทำให้ดีที่สุด