พูดถึง “ข้าว” นอกจากจะเป็นอาหารจานหลักของคนไทย ที่บริโภคกันมายาวนานตั้งสมัยบรรพบุรุษแล้ว ปัจจุบันข้าวก็ยังกลายเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศ สามารถส่งออกได้ปีละ 7-8 ล้านตัน นำเงินตราเข้าประเทศปีหนึ่งนับแสนล้านบาท

ด้วยการที่ ข้าวไทย เป็นข้าวคุณภาพสูง มีรสชาติดีกว่าหลายๆ ประเทศในโลก จึงทำให้ได้รับความนิยมอย่างมาก แต่รู้หรือไม่ว่า ในปัจจุบัน ประเทศไหนนิยมบริโภคข้าวไทย และนำเข้ามากที่สุดของโลก โดยตัวเลขการจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เมื่อปี 2565 ทั้งปีไทยส่งออกข้าวได้ทั้งสิ้น 7.69 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1.38 แสนล้านบาท

สำหรับ 5 อันดับประเทศที่นำเข้าข้าวไทยมากที่สุด ประจำปี 2565

  1. อิรัก                       1,600,163 ล้านตัน               มูลค่า 23,046 ล้านบาท
  2. แอฟริกาใต้             774,929 ล้านตัน                   มูลค่า 11,169 ล้านบาท
  3. จีน                         751,766 ล้านตัน                 มูลค่า 13,583 ล้านบาท
  4. สหรัฐอเมริกา         651,596 ล้านตัน                   มูลค่า 651,596 ล้านบาท
  5. เบนิน                      322,338 ล้านตัน                   มูลค่า 4,725 ล้านบาท

ส่วนสถิติในรอบ 3 เดือนแรกของปี 2566 กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ตัวเลขการส่งออกสินค้าข้าว มีมูลค่า 38,066 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 29.26% (8,616 ล้านบาท) มีปริมาณ 2,063,927 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 18.48% (321,625 ตัน) โดยตลาดที่นิยมบริโภคข้าวไทยสูงสุด ได้แก่

  1. อิรัก คิดเป็น 16.38% คิดเป็นของปริมาณการส่งออกข้าวไทยทั้งหมด
  2. อินโดนีเซีย (13.08%) 
  3. สหรัฐอเมริกา (8.62%)
  4. แอฟริกาใต้ (8.24%)
  5. เซเนกัล (5.86%)  

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ยอดการส่งออกข้าวไทยที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการที่ประเทศในภูมิภาคเอเชียและแอฟริกา อาทิ อินโดนีเซีย บังกลาเทศ อิรัก แอฟริกาใต้ และเซเนกัล ยังคงมีความต้องการนำเข้าข้าวอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองต่อความต้องการข้าวในประเทศและรักษาความมั่นคงทางอาหาร ประกอบกับในปีนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์คาดการณ์ว่าปริมาณผลผลิตข้าวไทยจะเพิ่มขึ้นจากปริมาณน้ำที่เพียงพอต่อการเพาะปลูก โดยผลผลิตข้าวนาปรังจะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ทำให้ราคาข้าวไทยอยู่ในระดับที่แข่งขันได้

แถมท้ายให้อีกนิด สำหรับการส่งออกสินค้าอีกชนิดที่สำคัญ อย่างมันสำปะหลัง ใน 3 เดือนแรก (มกราคม-มีนาคม) มีมูลค่า 39,982.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.81% (1,834.15 ล้านบาท) มีปริมาณ 3,290,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.17% (220,000 ตัน) โดยสินค้าส่งออกสำคัญ 3 อันดับแรก ได้แก่

  • มันเส้น/มันอัดเม็ด ปริมาณการส่งออกคิดเป็น 53.06% (1,745,674 ตัน) ของปริมาณการส่งออกมันสำปะหลังทั้งหมด ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ จีน (98.64%) เนเธอร์แลนด์ (0.86%) มาเก๊า (0.36%) และญี่ปุ่น (0.08%)
  • แป้งมันสำปะหลัง ปริมาณการส่งออกคิดเป็น 43.82% (1,441,678 ตัน) ของปริมาณการส่งออกมันสำปะหลังทั้งหมด ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ จีน (47.20%) ญี่ปุ่น (11.28%) อินโดนีเซีย (8.06%) มาเลเซีย (4.81%) สหรัฐอเมริกา (4.18%) และเกาหลีใต้ (3.38%)
  • กากมัน/สาคู ปริมาณการส่งออกคิดเป็น 3.12% (102,648 ตัน) ของปริมาณการส่งออกมันสำปะหลังทั้งหมด ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เกาหลีใต้ (36.43%) จีน (21.39%) นิวซีแลนด์ (18.32%) และบังกลาเทศ (2.47%)