นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่ เปิดเวทีปราศรัย อำเภอ เมือง จ.ตาก เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา เพื่อช่วยผู้สมัคร เขต 1 นายประสงค์ นามเสถียร หมายเลข 7 พรรคพลังประชารัฐ โดยนายชัยวุฒิ กล่าวปราศรัยว่า พรรคพลังประชารัฐ เป็นคนริเริ่มนโยบายบัตรประชารัฐ และจะทำต่อไป จะทำให้ดีขึ้น พรรคก้าวไกล บอกว่า ไม่เอาบัตรประชารัฐ เขาจะเอาสวัสดิการถ้วนหน้า ซึ่งตนก็ฟังแล้วไม่เข้าใจว่าคืออะไร เพราะไม่ชัดเจนเหมือนบัตรประชารัฐ ที่ได้แน่นอน 700 บาททุกเดือน ส่วนพรรคเพื่อไทยก็ตอบแบบเหลี่ยมๆ ไม่แน่ใจเดี๋ยวไปดูเฉยๆ ปล่อยเฉย ๆ ไว้ก่อนให้มันหมดไปเอง ไม่รู้แปลว่าอะไรก็คือไม่ทำต่อ ไม่เติมเงิน แต่เขาจะให้อย่างอื่น เขาจะให้เงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาท ทุกคนเลยเอาไปใช้ภายใน 6 เดือน แต่เงินดิจิทัลคืออะไร พี่น้องรู้จักไหม ตนยังคิดว่าแม่ค้าจะรับหรือเปล่า เพราะมันใหม่เกินไป ตนอยู่กระทรวงดิจิทัล รู้จักดี วันนี้เงินดิจิทัลเป็นเงินที่มีปัญหามากที่สุด เพราะเราเปิดให้ลองใช้กันในการเก็งกำไรในการซื้อขาย แล้วคนขาดทุนกันเยอะมาก เพราะราคามันขึ้นลงเยอะ ผันผวนจนคนไม่กล้าเล่น ทั่วโลกไม่มีใครให้ใช้เงินดิจิทัลซื้อขายสินค้าและบริการ เพราะเขากลัวมีปัญหากับค่าเงินกับระบบการเงินของเขา

“วันนี้ผมตรวจแล้ว มีประเทศเดียวในโลก ที่ให้ใช้เงินดิจิทัลซื้อของได้คือประเทศเอลซัลวาดอร์ เพราะประเทศเขาก็ไม่มีระบบการเงินที่เข้มแข็ง เขาใช้เงินดอลลาร์ แทนเงินของประเทศเขามานานแล้ว มีปัญหาเขาก็ลองใช้เงินดิจิทัล ถ้าเราได้พรรคเพื่อไทย บัตรสวัสดิการรัฐก็อาจจะไม่มีหรือไม่เติมเงิน แต่จะได้เงินดิจิทัล ประเทศไทยเราจะเป็นประเทศที่สองในโลก ที่สามารถใช้เงินดิจิทัลได้ ผมว่ามันน่าจะมีปัญหา และทําไมต้องเป็นเงินดิจิทัลให้พี่น้องปวดหัว และระบบการเงินก็จะมีปัญหาในอนาคต” นายชัยวุฒิ กล่าว

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เพราะฉะนั้นการเลือกตั้ง นอกจากดูนโยบายแล้วต้องดูอุดมการณ์ด้วย อุดมการณ์คือพรรคนี้คิดยังไงกับประเทศไทย จะให้ประเทศไทยเราเป็นอย่างไร จะให้ลูกหลานเรามีอนาคตอย่างไรต่อไป วันนี้ ก่อนมาที่นี่ ตนก็แวะ อ.แม่สอด มาที่ จ.ตาก ก็ขับรถผ่านศาลเจ้าพ่อพะวอ เป็นศาลที่พวกเราเคารพนับถือกันมากที่สุดใน จ.ตาก ตนก็ไปไหว้ ไปขอพรท่าน ขอให้ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ แลนด์สไลด์ ที่ จ.ตาก ผู้สมัครทั้ง 3 คน ได้รับการเลือกตั้งทั้งหมด แต่ที่สำคัญนอกจากขอเรื่อง ส.ส. แล้ว ตนขอให้ ท่านช่วยปกปักคุ้มครอง แผ่นดินไทย ให้คนไทยอยู่อย่างสงบร่มเย็นตลอดไป เพราะเจ้าพ่อพะวอคือ นักรบ คือกะเหรี่ยง คือปกาเกอะญอ เป็นตำนานของพวกเราที่เป็นทหารที่คุมด่านแล้วต่อสู้กับกองทัพพม่า ที่จะบุกมารุกรานประเทศไทย

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การที่ให้คนไม่รักชาติ ให้คนเกลียดประเทศไทย ให้คนเกลียดชังกัน แล้วมันทำให้คนมีปัญหาบ้านเมืองไม่สงบสุข วันนี้เราต้องคิดอุดมการณ์สำคัญคือเราทำอย่างไรให้ประเทศชาติเราสงบสุข ประชาชน อยู่ดีกินดีเพราะสงบสุข ตนถามคนปกาเกอะญอหลายคน โดยเฉพาะที่อยู่ที่ฝั่งประเทศไทย มี 2 ฝั่ง ฝั่งเมียนมากับฝั่งไทย ฝั่งไทยถึงแม้ชีวิตจะยังลำบากอยู่ แต่ก็อยู่ดีขึ้นเรื่อยๆ มีชีวิตที่ดี วันนี้มีถนนหนทาง มีน้ำ มีอินเทอร์เน็ตใช้ ลูกหลานได้เรียนหนังสือ มีการมีงานทำ บางคนจบปริญญาตรี ปริญญาโท พี่น้องลองข้ามไปฝั่งพม่า วันนี้ยังจับปืนสู้กับทหารเมียนมาอยู่เลย เหมือนเมื่อ 200 ปีก่อน เพราะบ้านเมืองเขาไม่สงบสุข เขาเป็นรัฐซ้อนรัฐ เขาไม่ได้เป็นราชอาณาจักรไทยแบบเราประเทศเพื่อนบ้านเรา นี่คืออุดมการณ์ที่ตนถึงพูดตลอดว่า ตนเห็นด้วย ใครมาด่าทหารเพื่อทำให้คนเกลียดทหาร เพื่อหวังผลทางการเมือง อันนี้ไม่ใช่อุดมการณ์ของพรรคเรา เพราะตนคิดว่ากองทัพต้องเข้มแข็งเพื่อดูแลพี่น้องประชาชน

“ผมเคยคุยกับนักการเมืองบางคน แล้วติดตามความคิดของเขา เขาบอกว่าเขาอยากเปลี่ยนประเทศ ผมก็รู้ว่าพี่น้องผมหมายถึงใครนะ อยากเปลี่ยนประเทศ เขาบอกว่าประเทศไทยมีปัญหาเยอะ คนเกลียดชังกัน คนลำบาก จะเปลี่ยนประเทศได้ ต้องเปลี่ยนที่ต้นตอของปัญหา ต้องแก้ที่ต้นตอ ผมฟังแล้วผมรู้แล้ว เขาหมายถึงอะไร ต้นตอปัญหาของเขา แต่ผมว่ามันไม่ใช่เพราะปัญหาในมุมมองของเขาที่เขามองเป็นต้นตอ ผมมองว่าสิ่งนั้นคือต้นไม้ใหญ่ ที่มีรากแก้ว แผ่ออกไปเต็มผืนแผ่นดิน ยึดแผ่นดินไทยให้เป็นปึกแผ่น แล้วมีร่มเงา ปกป้องคุ้มครองให้คนไทยร่มเย็น อยู่เย็นเป็นสุขมาตลอดนับ 100 ปี ไม่ใช่ต้นตอของปัญหา ต้นตอของปัญหาคือนักการเมืองขี้โกง ทุจริตคอร์รัปชั่น ถ้ามองปัญหาผิด ไปตัดต้นไม้ผิดต้น ประเทศฉิบหายแน่นอน นี่คือความแตกต่างของอุดมการณ์” นายชัยวุฒิ กล่าว

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า วันนี้เราต้องแก้ปัญหาที่การเลือกตั้งให้ได้คนดี ให้ได้นักการเมืองที่จะไปทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ไม่ไปทำงานเพื่อเห็นแก่ตัว หรือเห็นแก่ครอบครัวแล้วทำให้บ้านเมืองแตกแยก เพราะถ้าไปทำให้บ้านเมืองแตกแยกอีก ตนเชื่อว่าพี่น้องไม่มีความสุขแน่นอน ตนถามมาหลายคนแล้ว ไม่รู้เราเป็นเหมือนกันเปล่านะ ตนเจอมาหลายครอบครัวแล้ว เวลากินข้าวด้วยกัน พ่อใส่เสื้อสีแดง แม่ใส่เสื้อสีเหลือง ตอนนี้ลูกใส่เสื้อสีส้ม นั่งคุยกันแล้วทะเลาะกัน พอมันขัดแย้งกันด้วยความเหนื่อย คนมันก็ไม่มีความสุข คนมันจะมีความสุขได้กินข้าวอร่อย ต้องไม่ทะเลาะกัน วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นคนแรกที่พูด เราจะก้าวข้ามความขัดแย้ง เป็นอุดมการณ์สำคัญของพรรค อะไรที่ทำให้คนทะเลาะกัน ขัดแย้งกัน เราไม่เอา เราคิดอะไรที่ทำได้เพื่อให้บ้านเมืองสงบสุข

“เราคิดต่างกันได้เห็นต่างกันได้เป็นประชาธิปไตย แต่เราต้องมาคุยกันด้วยเหตุที่ผล หาทางออกด้วยกัน ทำงานด้วยกันให้ได้ นี่คือจุดยืนของ พล.อ.ประวิตร ที่ท่านจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ที่จะก้าวข้ามความขัดแย้ง ประสานให้ทุกคนทุกกลุ่มรักกันสามัคคีกันให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าให้ได้ และผมเชื่อ ผมอยู่กับลุงป้อมมา ตั้งแต่ก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ ท่านจะเป็นคนที่คุยได้ทุกคนแล้วทำให้ทุกคนรักกันสามัคคีกันได้แน่นอน” นายชัยวุฒิ กล่าว