เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ 28 เม.ย. รายการโหนกระแส โดยพิธีกร “หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้เชิญ ด.ต.นิติพนธ์ นุชิต สามี หนิม แม่ลูกอ่อนผู้เสียชีวิต, คุณยายเพ็ญ คุณยาย “แด้” สุทธิศักดิ์ ผู้เสียชีวิต และเป็นอดีตสามีแอม, ดล เพื่อนแด้, ภาคภูมิ สามีนิตยา ผู้เสียชีวิต, สิงโต หัวหน้างานนิตยา, รพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเรื่องนี้ และ อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานการสอบสวน มาพูดคุยในรายการ เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหยื่อที่ไปเกี่ยวข้องกับ นางสรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ หรือ “แอม” ผู้ต้องหาในคดีความผิดต่อชีวิต และกำลังจะกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง ที่ฆ่าเหยื่อล้างหนี้ และประสงค์ต่อทรัพย์สินของเหยื่อ

โดย “ด.ต.นิติพนธ์ นุชิต” สังกัดตำรวจตรวจค้นเข้าเมือง สามีของ “น.ส.หนิม” เล่าให้ฟังว่า “หนิม” อายุ 40 ปี มีลูกชายด้วยกัน 1 คนอายุ 5 ขวบ ตอนนั้นหนิมทำงานธนาคารอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่เมื่อพ่อซึ่งอยู่มุกดาหารล้มป่วย เธอจึงลาออกเพื่อกลับไปดูแล หลังจากพ่อเสียชีวิต ได้งานทำเป็นพนักงานขายบัตรเครดิตอยู่ที่มุกดาหาร ทั้งสองจึงไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน

ประมาณปี 2559-2560 “หนิม” เล่นแชร์ออนไลน์วงเดียวกับ “แอม” ภรรยานายตำรวจจากนครปฐม ต่อมาวงแชร์ล้ม หนิมกับแอมจึงนัดเจอกันเพื่อไปทวงหนี้วงแชร์ ทำให้ทั้งสองสนิทสนมกันเรื่อยมา โดย “หนิม” บอกกับสามีว่า “แอม” เป็นเพื่อนที่ดี คอยห่วงใยเธอตลอด ที่ผ่านมา ด.ต.นิติพนธ์ เคยเจอ “แอม” แค่ 2 ครั้งเท่านั้น ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด

จนกระทั่งปี 2563 “หนิม” ตั้งครรภ์ลูกสาว เธอลาออกจากงาน เพราะยอดขายบัตรเครดิตไม่ดี ด.ต.นิติพนธ์ จึงไปกู้เงินสหกรณ์ตำรวจและถอนเงินมาให้ภรรยา 1.4 แสนบาท เพื่อเอาไว้ใช้จ่ายในช่วงตั้งครรภ์ ระหว่างนั้นทั้งสองวิดีโอคอลหากันทุกวัน แต่ “หนิม” ก็ยังเล่าเรื่อง “แอม” ชวนเธอลงทุนต่าง ๆ

ต่อมาวันที่ 19 ต.ค. 63 หนิมให้กำเนิดลูกสาว หลังคลอดลูกได้ 1 เดือน เธอเล่าให้สามีฟังว่า หลังจากไปบ่นกับ “แอม” ว่ารู้สึกอ้วน “แอม” เลยบอกว่าจะส่งยาลดน้ำหนักมาให้ ยาตัวนี้ดีมาก จนกระทั่งวันที่ 25 พ.ย. 63 ด.ต.นิติพนธ์ วิดีโอคอลหาภรรยาตอน 5 โมงเย็น เธอบอกว่าวันนี้รู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลีย อยากพักผ่อนเร็ว

จากนั้นเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ด.ต.นิติพนธ์ โทรฯ หาภรรยาอีกแต่ไม่รับสาย จึงโทรฯ หาลูกชายวัย 5 ขวบ เพื่อถามว่าแม่อยู่ไหน ก็ได้คำตอบว่า “…หม่าม้าร้องไห้ คิดถึงป๊า…” จังหวะนั้น ด.ต.นิติพนธ์ ให้ลูกชายหันกล้องไปหาแม่ ก็พบว่า ลูกสาวคนเล็กวัย 1 เดือน นอนอยู่บนที่นอน ส่วนภรรยาของเขา นอนอยู่ปลายเตียงในลักษณะนอนตะแคงกึ่งคว่ำหน้า ตอนนั้นคิดว่าภรรยาคงเหนื่อยและเหงา นอนร้องไห้จนหลับไป จึงตัดสินใจวางสายไปก่อน

ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ด.ต.นิติพนธ์ โทรฯ หาลูกอีกครั้ง โดยขอให้ลูกหันกล้องไปทางแม่อีกที คราวนี้เห็น “หนิม” ยังนอนอยู่ท่าเดิม รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงรีบโทรฯ หาเพื่อนบ้านให้ช่วยไปดูภรรยา เพราะคิดว่าน่าจะเป็นลมหมดสติ แต่เมื่อเพื่อนบ้านไปถึงก็พบว่า “หนิม” นอนตะแคงอยู่บนเตียง ปากเขียว มือเขียว พยายามเขย่าตัวเพื่อปลุกแต่ไม่ตื่น สุดท้ายต้องเรียกกู้ภัยเร่งพาตัวส่ง รพ. ขณะนั้น ด.ต.นิติพนธ์ รีบเดินทางไปยังมุกดาหาร ระหว่างทางพยายามโทรฯ หา รพ. บอกหมอให้ช่วยยื้อชีวิตภรรยาให้ได้ แต่คนไข้อาการหนัก หมอบอกว่าทำจนสุดความสามารถแล้ว…

จังหวะนั้น ด.ต.นิติพนธ์ ไม่สามารถเล่าต่อไปได้เพราะความอัดอั้นตันใจ จน “หนุ่ม-กรรชัย” ต้องมากุมมือแสดงความเสียใจ พร้อมกับบอกว่า “ผมเข้าใจว่า พี่นิติพนธ์ พยายามจะเล่าออกมาให้ละเอียดทุกอย่างแต่ในใจนั้นไม่ไหว พี่พยายามเรียกร้องขอความเป็นธรรม”

ด.ต.นิติพนธ์ จึงเผยว่า เข้าใจมาตลอดว่าภรรยาจากไปเพราะเรื่องสุขภาพ หัวใจล้มเหลว เหนื่อยจากการเลี้ยงลูก โดยเฉพาะการคลอดบุตรในช่วงวัย 40 นึกโทษตัวเองมาโดยตลอดว่า ช่วยเหลือภรรยาช้าเกินไป…

แต่แล้วเมื่อข่าวของ “แอม ไซยาไนด์” กำลังถูกพูดถึงกันเป็นวงกว้าง เนื่องจากมีเหยื่อที่เป็นคนรู้จักเสียชีวิตในลักษณะเดียวกันมากกว่า 12 ราย เขาจึงฉุกใจ ลองเอาโทรศัพท์ของ “หนิม” มาตรวจสอบ จึงพบว่า “แอม” ชวน “หนิม” ลงทุนและยืมเงินไปหลายครั้ง มีการเอาเงินเก็บและกู้ด่วนไปให้ รวมเป็นหลักแสน

นอกจากนี้ยังพบว่า “แอม” ส่งยาลดความอ้วนมาให้ “หนิม” กินลักษณะเป็นแคปซูล ซึ่ง “หนิม” ยังได้ถ่ายรูปส่งไปให้ “แอม” ดูว่ายาเยิ้มละลายติดกันหมดแล้ว ฝ่ายแอมยังบอกว่าจะส่งมาให้ใหม่ และในวันที่ 25 พ.ย. “แอม” ได้ส่งยามาให้ “หนิม” อีกครั้ง ซึ่งทั้งสองพูดคุยกันในช่วงเช้า จึงมีความเป็นไปได้ว่า “หนิม” อาจทานยาชุดใหม่เข้าไป ก่อนจะเสียชีวิตในช่วงเย็น

ด.ต.นิติพนธ์ ยังระบุว่า หลังภรรยาเสียชีวิต ได้ไปรับศพของเธอที่ รพ. พบว่าสภาพศพมีเลือดออกที่ริมปาก ปลายนิ้วเขียว อุจจาระราด เมื่อกลับถึงบ้านพบว่า บนหัวเตียงมียาแคปซูลวางอยู่ โดยยาดังกล่าวบรรจุอยู่ในกล่องใส ๆ ไม่มีฉลากยาใด ๆ ขณะที่ “แอม” โทรฯ หาเขาถามว่าหนิมเป็นอะไรหรือเปล่า เมื่อคืนคุยกันอยู่ดี ๆ แล้วก็ติดต่อไม่ได้อีก พอรู้ว่าหนิมเสียชีวิตแล้ว แอมก็แสดงความเสียใจ หลังจากนั้นก็ไม่เคยติดต่อมาอีก ทั้งนี้ ด.ต.นิติพนธ์ เชื่อว่า ช่วงวาระสุดท้ายของภรรยา เธอคงทรมาน พยายามตะโกนเรียกหาเขา จนลูกชายได้ยิน จึงเข้าใจว่า “…แม่คิดถึงพ่อ…” แต่พ่อไม่ได้ยินเสียงในตอนนั้น จึงไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น

ทั้งนี้ ด.ต.นิติพนธ์ ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ก่อนเข้าให้ปากคำกับตำรวจ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับภรรยา โดยล่าสุดตำรวจกองปราบปรามเผยข้อมูลว่า หลังจากตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้ว ทราบว่ามีการโอนเงินจากบัญชี “หนิม” สู่บัญชี “แอม” รวม 6-7 แสนบาท นั่นจึงทำให้ ด.ต.นิติพนธ์ เชื่อว่า ภรรยาของเขาน่าจะถูกวางยาจนถึงแก่ความตายอย่างแน่นอน

ช่วงท้ายรายการ ด.ต.นิติพนธ์ ยังระบุว่า ทุกวันนี้เวลาลงรูปลูก ๆ เขายังแท็ก #หนิม เสมือนว่าเธอยังอยู่ ส่วนลูกชายอายุ 7 ขวบแล้ว เข้าใจแล้วว่าความตายคืออะไร แต่ก็ยังบ่นคิดถึง “แม่” เพราะเขาเคยอยู่กับลูกตลอดเวลา ส่วนลูกสาวคนเล็กได้กินนมแม่เพียง 1 เดือน ทุกวันนี้ทั้ง ด.ต.นิติพนธ์ แม่ของเขา และแม่ของหนิม ต่างพยายามช่วยกันดูแลหลานสาวอย่างดีที่สุด

ขณะที่ หนุ่ม-กรรชัย กล่าวปิดท้ายรายการว่า ผมต้องกราบขอโทษที่สัมภาษณ์ผู้ร่วมรายการ ซึ่งเป็นการตอกย้ำให้เกิดความรู้สึกเศร้าเสียใจเดิม ๆ ออกมา ต้องกราบขออภัยจริง ๆ สุดท้ายสิ่งที่จะพูดก็คือ เสียงคร่ำครวญร้องไห้ในวันนี้ กับเสียงหัวเราะในวันนั้น หมายถึงใครคิดดูนะครับ

ขอบคุณรายการโหนกระแส