สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงมาดริด ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ว่า สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสเปน (เอเมต) บันทึกอุณหภูมิสูงถึง 38.8 องศาเซลเซียส ที่สนามบินในเมืองกอร์โดบา ทางตอนใต้ของประเทศ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งทำลายสถิติเดิมที่ 38.6 องศาเซลเซียส ในเมืองเอลเช ทางตะวันออกของสเปน

ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างโปรตุเกส สถาบันทะเลและบรรยากาศแห่งโปรตุเกส (อิปมา) ระบุว่า เมืองโมรา ทางตอนกลางของประเทศ มีอุณหภูมิแตะ 36.9 องศาเซลเซียส เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเช่นกัน นับเป็นการทุบสถิติ 36 องศาเซลเซียสเมื่อเดือน เม.ย. 2488 ในเมืองพินเฮา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

แม้ว่าอุณหภูมิในสเปนจะเริ่มลดลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ความร้อนที่แผดเผายังคงมีอยู่ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของสเปน

อนึ่ง คลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นเร็วผิดปกตินี้ ได้รับแรงผลักดันจากมวลอวกาศที่แห้งและร้อนมาก จากแอฟริกา ส่งผลให้สเปนออกประกาศเตือนถึงความเสี่ยงสูงที่จะเกิดไฟป่า และภัยแล้งที่เลวร้ายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังรัฐบาลมาดริดยังกล่าวเสริมว่า จะเริ่มการรณรงค์การเฝ้าระวังไฟป่าในวันศุกร์ ซึ่งเร็วกว่าปกติถึง 1 เดือนครึ่ง

เมื่อปีที่แล้ว สเปนประสบกับปีที่ร้อนที่สุด นับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกอุณหภูมิ โดยตัวเลขของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) บ่งชี้ว่า พื้นที่เกือบ 75% มีความอ่อนไหวต่อการกลายสภาพเป็นทะเลทราย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

ด้านผู้สันทัดกรณีหลายคน กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ซึ่งเกิดขึ้นจากกิจกรรมของมนุษย์ กำลังเพิ่มความรุนแรงและความถี่ของสภาพอากาศสุดขั้วต่าง ๆ เช่น คลื่นความร้อน, ภัยแล้ง และไฟป่า.

เครดิตภาพ : AFP