ไรเดอร์สาวจากบริษัทอูเบอร์อีทส์ สาขาในออสเตรเลีย ซึ่งยินยอมให้ระบุเพียงชื่อตัวว่า ‘เจสส์’ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวจากซิดนีย์ มอร์นิง เฮรัลด์ ว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2566 เธอรับออร์เดอร์ส่งของจากลูกค้ารายหนึ่ง ของที่เธอต้องส่งนั้น บรรจุอยู่ในห่อพลาสติก รัดไว้อย่างแน่นหนาด้วยสายรัดสีดำ โดยเธอไปรับของจากร้านอาหารแห่งหนึ่ง
พอเห็นของที่ต้องส่ง เธอก็รู้สึกสงสัยขึ้นมาในทันที จึงสอบถามลูกค้าไปว่าข้างในห่อของนั้นคืออะไร ซึ่งได้รับคำตอบว่าเป็น “ยาสีฟัน”
แต่ เจสส์ ก็ยังคงรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากลกับห่อของนี้ จึงตัดสินใจตามสัญชาตญาณของเธอ โดยยกเลิกคำสั่งส่งของมูลค่า 16 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 360 บาท) ที่ดูน่าสงสัย และนำของห่อนั้นไปยังสถานีตำรวจ ซึ่งระหว่างทางนั้น ลูกค้าที่สันนิษฐานว่าเป็นพ่อค้ายาเสพติด ได้โทรฯ หาเธอและด่าว่าอย่างหยาบคาย นอกจากนี้ยังคงรีวิวขั้นต่ำสุดให้เธอในแอป โดยให้คะแนนเพียงดาวเดียว
ตัวแทนของหน่วยตำรวจนิวเซาท์เวลส์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบห่อของดังกล่าว และพบว่าในหลอดยาสีฟันที่ เจสส์ ยกเลิกออร์เดอร์การส่งของนั้น มียาไอซ์ซ่อนอยู่ราว 2 กรัม
เจสส์ ร้องเรียนการให้คะแนนที่ไม่เป็นธรรมจากลูกค้ากลับไปยังอูเบอร์อีทส์ ผ่านช่องทางออนไลน์ แต่ไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ
หนึ่งสัปดาห์ให้หลัง บนแอปก็ยังคงปรากฏข้อมูลว่า ลูกค้าที่คาดว่าน่าจะเป็นพ่อค้ายาสามารถเรียกใช้บริการอูเบอร์อีทส์ ส่วนคะแนนรีวิวของเธอไม่ได้รับการแก้ไข อีกทั้งเธอเองก็ยังไม่ได้รับค่าจ้างส่งของ
แต่หลังจากที่ผู้สื่อข่าวติดต่อไปทางอูเบอร์อีทส์เกี่ยวกับกรณีของ เจสส์ ทางบริษัทก็รีบส่งคำขอโทษไปให้เธอ จ่ายเงินค่าชดเชยและลบคะแนนรีวิว 1 ดาวออกไป รวมทั้งกล่าวว่ากำลังดำเนินการเป็นการภายในเพื่อจัดการลูกค้าที่ก่อเรื่อง
เจสส์ ซึ่งมีอาชีพหลักเป็นครู และเพิ่งทำงานเป็นไรเดอร์เพื่อหารายได้เสริมกับอูเบอร์อีทส์ ได้เพียงเดือนเดียว กล่าวว่า เธอออกมาพูดเรื่องนี้ในฐานะตัวแทนของไรเดอร์ที่หาเลี้ยงชีพโดยอาศัยรายได้จากส่วนแบ่งที่ทางบริษัทจ่ายให้ เธอกล่าวว่า จะเลิกเป็นไรเดอร์ของที่นี่แล้ว เพราะรังเกียจวิธีที่บริษัทปฏิบัติต่อเธอ ขณะที่ทางอูเบอร์อีทส์ ยังคงไม่แสดงความเห็นใดๆ เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว
แหล่งข่าว : businessinsider.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES