โลดแล่นอยู่ในวงการเพลง และวงการบันเทิงมามากกว่า 30 ปี สำหรับ เท่ห์-อุเทน พรหมมินทร์ ศิลปินหนุ่มเสียงดี มีเอกลักษณ์ในตำนาน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี แต่เสียงร้องของเขายังคงไว้เหมือนเดิม จนถูกยกฉายาให้เป็นมาเฟียนักร้องยุค 90 ล่าสุด เท่ห์ออกมาเปิดใจในรายการโต๊ะหนูแหม่ม พร้อมเผยเคล็ดลับและของดีที่ทำให้ตัวเองโด่งดัง และชื่อเสียงไม่จมไม่หายไปจากวงการเลย

เท่ห์ เผยว่า “เรื่องฉายามาเฟียในวงการคือ นักร้องรุ่นพี่ทุกคนจะเรียกเราว่าเป็นหัวหน้า เพราะเนื่องจากที่เราเป็นคนมีงานเยอะ และเรารู้จักผู้หลักผู้ใหญ่เยอะ และเราก็ชวนพี่แต๋มไปงาน พาพี่ตุ๊กไปงาน ชวนพาเมล่าไปงาน แต่ละคนจะเห็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่ให้ความเอ็นดูและให้ความสนิทสนมกับเราเป็นแบบระดับบิ๊กใหญ่ของประเทศไทย ตอนนั้นงานเรามันล้นมือ มันไปไม่ไหว เพราะฉะนั้นก็เลยมีพวกพี่เหล่านี้คอยช่วยเหลือ ซึ่งบางงานเราก็ส่งรุ่นพี่นักร้องในวงการของเราไปแทนบ้าง หรือให้เพื่อนไปร้องด้วยกันบ้าง ซึ่งเจ้าของงานบางทีก็ถามว่าเราถึงงานหรือยัง เราก็จะบอกเขาว่างานนี้เราไม่ได้ไปแล้ว เดี๋ยวเราจะส่งคนอื่นให้ไปแทน และอีกงานก็จัดส่งอีกคนไปแทนเหมือนกัน เราก็กระจายงานไปให้กับหลายคน เพราะเราอยู่ต่างจังหวัดอีกงานหนึ่ง เรื่องของดีที่คนรักคือ ความน่ารักความอ่อนน้อมถ่อมตนของเราด้วยที่เรามีกับพี่ๆ เพื่อนๆ หรือจะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็ตาม ซึ่งเราก็จะให้ความจริงใจกับเขา เห็นเค้าเป็นคนสำคัญ เรียกว่าความกตัญญูกตเวทีของเราด้วย และไม่ว่าจะมีงานอะไรพี่น้องทั้งในวงการและนอกวงการ งานฟรีงานมีเงินได้เงินเราไม่เคยถามเรื่องเงินเลย เลยทำให้ทุกอย่างมันออกมาเป็นแบบนี้”

“เราทำแบบนี้กับทุกคนหมดครับ และเราเริ่มทำกับผู้ใหญ่ก่อน คือท่านแรกเลยที่เรามีโอกาสได้ไปร้องเพลงแทนท่านก็คือ “พี่ต๋อย วินัย” ตอนนั้นท่านป่วยและโทรศัพท์มาบอกว่า พี่นอนอยู่โรงพยาบาล พี่ต้องมีไปร้องเพลงให้กับสโมสร ไปแทนพี่หน่อย ซึ่งเราก็ไปแทนเนื่องจากมันมีเรื่องของค่าตัวที่เค้าจะมอบให้พี่ต๋อยอยู่แล้ว ในใจแกก็คิดว่าเราไปร้องแทน ค่าตัวเราเก็บไว้เองแต่ไม่ใช่ เราไม่เอา เราเอาค่าตัวทั้งหมดที่ได้มาคืนให้พี่ต๋อย และหน้าเวทีเราก็จะพูดถึงคุณงามความดีของพี่ต๋อยในวงการเพลงที่เรารู้มาทั้งหมด และเราก็เชิญชวนพวกพี่ๆ แฟนคลับพี่มาฟังเพลง บอกว่าวันนี้เรามาในนามพี่ต๋อย วินัย ไม่ได้มาในนามของเราเอง เพราะฉะนั้นเพลงที่จะร้องก็คือ เพลงชู้ทางใจ ซึ่งเราก็ร้องเพลงของพี่ต๋อย และหน้าเวทีก็จะประกาศว่าใครอยากให้กำลังใจพี่ต๋อย หรืออยากเอาเงินฝากไปให้พี่ต๋อยก็สามารถเอามาให้ได้ เพราะทุกบาททุกสตางค์เดี๋ยวเอาไปให้พรุ่งนี้เลย อีกท่านหนึ่งก็คือ “อาสุเทพ วงศ์คำแหง” ที่เราคอยช่วยมาตลอดในช่วงที่ท่านป่วย”

เท่ห์ เผยต่อว่า “เราทำมาเรื่อยๆ ครับ แล้วก็ยังพูดมาตลอดว่า ถ้าใครที่เราพอจะช่วยเหลือท่านได้ก็ให้บอก ซึ่งเราเห็นรุ่นพี่ในวงการคอยเป็นต้นแบบ แต่ละท่านทำการกุศลมาตลอด เพราะฉะนั้น อันไหนที่เราทำได้และทำตาม และเรามีความสุขมัน สามารถช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือคนอื่นได้ เราทำทุกรูปแบบ และแม้กระทั่งรุ่นเล็กๆ หรือนักร้องรุ่นหลังเราก็ช่วย เรื่องความกตัญญูอย่างโรงเรียนยุพราชฯ ที่จังหวัดเชียงใหม่ เราจบที่นั่น และเราคิดว่าที่โรงเรียนนั้นมีบุญคุณกับเรา เพราะถ้าไม่มียุพราชวิทยาลัยในวันนั้น ก็ไม่มีเราในวันนี้ เพราะเราเข้าไปในโรงเรียนในฐานะโควตานักร้อง เล่นดนตรีให้กับโรงเรียน พอเราเรียนจบมา อะไรที่จะตอบแทนโรงเรียนได้ เราก็ทำทุกอย่างทันที ไปเล่นคอนเสิร์ตสมาคมศิษย์เก่า งานโรงเรียนงานคืนสู่เหย้า ค่าตัวไม่เคยถามไม่พูด อย่างรุ่นน้องก็จะมีน้องสปาย, แอค โชคชัย, และน้องผิงผิง อีกคนหนึ่ง จากรายการเดอะ โกลเด้นซอง ซึ่งเราก็ไปด้วยกัน แล้วก็จะบอกผู้ใหญ่ว่าเราก็จะพาน้องไปด้วยนะครับ พี่ใส่ซองไว้ให้น้องด้วยนะ เท่านี้กำลังน่ารักอะไรอย่างนี้ ถามว่าอยากเห็นอะไรกับสิ่งที่ทำ เราเห็นรุ่นน้องทั้ง 3 คน น้องสปาย, แอค โชคชัย, และน้องผิงผิง เพราะเราใกล้ชิดกับเขา เราก็อยากให้น้องได้มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับรุ่นใหญ่ ยกตัวอย่างท่านที่เข้าถึงตัวยากมากที่สุด คือ อาเล็ก ธานินทร์ เพราะท่านจะเป็นคนดุ และพูดตรงๆ ใครพูดไม่เข้าหูไม่ได้ แต่เราสามารถเชื่อมความสัมพันธ์ให้น้องๆ ไปเรียนเอาวิชาได้ เราก็จะบอกคุณอาว่าน้องพวกนี้เห็นคุณอา เป็นต้นแบบ”