เมื่อวันที่ 12 พ.ค. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ลงพื้นที่หาเสียงช่วงสองวันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ในฝั่งธนบุรี กรุงเทพฯ ได้แก่ ตลาดศาลาน้ำเย็น ตลาดบางกอกน้อย จรัญสนิทวงศ์ บางขุนนนท์ ถนนเจริญรัถ ไอคอนสยาม และตลาดวัดไชยฉิมพลี เพื่อแนะนำผู้สมัคร ส.ส.กทม. ฝั่งธนบุรีและผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยมีประชาชนตอบรับการหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายเป็นอย่างดี

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า กระแสการเมืองตอนนี้ พรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคก้าวไกล หาเสียงนั้น ขอให้ได้คะแนนเยอะๆ อาจทำให้พรรคของตนได้รับผลกระทบ แต่ขอฝากประชาชนให้ลงคะแนนให้พรรคของตนด้วย พรรคของตนไม่มีนายทุนที่ต้องตอบแทน และตนไม่เอาเผด็จการ คราวที่แล้วบางพรรคมาชวนตนให้ไปร่วมตั้งรัฐบาล โดยเสนอตำแหน่งและเงินหลายร้อยล้านบาท แต่ตนปฏิเสธ เพราะตนยืนฝั่งประชาธิปไตย จุดยืนของตนคือตรงนี้ ขอฝากประชาชนลงคะแนนให้พรรคของตนทั้งสองบัตรด้วย

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ล่าสุดพบว่า มี ส.ว. บางคนบอกว่าอาจจะงดออกเสียงในการลงมติเลือกนายกฯ นั้น อย่าลืมว่าเลือกตั้งครั้งที่แล้วและครั้งนี้ รัฐธรรมนูญกำหนดให้ ส.ว. มีส่วนร่วมลงมติเลือกนายกฯ ไม่กี่วันข้างหน้า ส.ว. จะลงมติตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยก็ได้ ดังนั้น สิ่งที่ ส.ว. บางคนระบุไว้นั้น ขอเตือนว่า ส.ว. อย่าเล่นการเมืองจนบ้านเมืองเสียหาย ประเทศจะเป็นประชาธิปไตยนั้น เกิดจากนักการเมืองเคารพเสียงประชาชน เพราะผลเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งนี้คือฉันทามติของประชาชน พรรคที่ได้คะแนนอันดับหนึ่งควรได้สิทธิตั้งรัฐบาล พรรคอื่นๆ ไม่ควรดำเนินการแข่งขัน

หากใครไปตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคอันดับหนึ่งนั้น มันไม่ใช่ลูกผู้ชายและอย่าเกเร เพราะหากทำแบบนั้น การเลือกนายกฯ จะทำไม่ได้ รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จะรักษาการไปเรื่อยๆ และอาจใช้เวลาดังกล่าว ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยไปก่อน แล้วค่อยไปติดต่อ ส.ส. ที่ไม่มีอุดมการณ์มาร่วมตั้งรัฐบาล จนเป็นเสียงข้างมาก

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ประเมินแล้วพรรค พท. น่าจะเป็นอันดับหนึ่งและต้องแก้เกมนี้ และควรไปตัดปัญหาของ ส.ว. บางคน โดยต้องแยก พล.อ.ประยุทธ์ ออกจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้ได้ หากปล่อยไว้แบบนี้ เมื่อถึงเวลา พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร จะจับมือกัน โดย ส.ว. จะมารวมตัวกันอีก และเกมจะเปลี่ยนไป

“ส.ว. บางคนทำแบบนี้ไม่เป็นประโยชน์กับบ้านเมืองและขัดขวางประชาธิปไตย ยังสนับสนุนเผด็จการและที่ผ่านมาพวกตนยังนำ ส.ว. เหล่านี้ออกไปไม่ได้ วันนี้ประชาชนควรพิจาณาและตำหนิ ส.ว. เหล่านี้”

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวด้วยว่า กรณีที่รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ของไปรษณีย์ไทย ระบุว่า มีซองจดหมายการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตที่ไม่สามารถอ่านจ่าหน้าซองได้ กว่า 300,000 ซอง และต้องส่งกลับไปให้ผู้เชี่ยวชาญของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วินิจฉัย และคาดว่าอาจจะไม่สามารถส่งไปยังเขตเลือกตั้งได้ทันในเวลา 17.00 น. ของวันที่ 14 พ.ค. นี้ และจะกลายเป็นบัตรเสียนั้น ถือเป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรงมาก เพราะหากการใช้สิทธิผู้มีสิทธิเลือกตั้งถึง 300,000 คน ต้องเสียไปจากความบกพร่องของ กกต. ถือว่า เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ยิ่งกว่ากรณีบัตรจากนิวซีแลนด์ 1,700 ใบ ที่เสียจากการส่งกลับไม่ทันในการเลือกตั้งปี 62

“ผมจึงขอเรียกร้องให้ กกต. ชี้แจงในเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจน และหากมีซองที่ไม่สามารถจัดส่งได้ถึง 300,000 ซองจริง อยากให้ กกต. รับผิดชอบด้วยการลาออกหลังจากรับรองผลการเลือกตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่เช่นนั้นพรรคเสรีรวมไทยจะรวบรวมหลักฐาน และยื่นถอดถอน ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หลังการเลือกตั้ง” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว.