เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 12 พ.ค. ร.ต.ท.ณฐกร ดำรงธนวรรณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเพลิงไหม้หญ้า แล้วเกิดกลุ่มควันปลุกคุลมถนนจนรถยนต์ เสียหลักตกข้างทางแล้วถูกเพลิงไหม้รถมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณถนนทางเข้าวัดวันสุคันธาราม หมู่ 6 ต.บ้านหว้า อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานรถดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ใกล้เคียงกว่า 10 คัน ไปควบคุมเพลิง พบว่าเพลิงกำลุกไหม้ป่าหญ้าและนาข้าวที่เก็บเกี่ยวแล้ว เป็นวงกว้าง กลุ่มควันกระจายไปทั่วบริเวณ เข้าไปภายในชุมชนและถนนทางเข้าที่เกิดเหตุ

บริเวณที่เกิดเหตุข้างทาง พบรถยนต์อเนกประสงค์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กน 9649 พระนครศรีอยุธยา ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งคัน ป้าหญ้าต้นไม้บริเวณโดยรอบถูกไฟไหม้ ด้านท้ายรถพบศพ น.ส.พัชรีวงศ์ สุริยะทัศน์ อายุ 27 ปี เป็นผู้จัดการคลินิกเสริมความงาม ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ใน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีบ้านพักใกล้กับที่เกิดเหตุ

สอบถาม นายประมวล ผาสุขฐิน อายุ 38 ปี พี่เขยของผู้เสียชีวิต ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองขับรถออกจากหมู่บ้าน เพื่อไปรับพี่สาวของผู้เสียชีวิต ระหว่างทางขับรถสวนทางกับผู้เสียชีวิต ซึ่งเพิ่งจะเลิกงานกำลังจะกลับบ้าน ช่วงนั้นมีไฟไหม้หญ้าลุกลามโหมรุนแรงมาก กลุ่มควันจำนวนมากจนมองไม่เห็นทาง ขากลับตนเองต้องอ้อมกลับไปอีกทาง จากนั้นมีชาวบ้านบอกว่ามีรถตกถนนแล้วถูกไฟไหม้รถ จึงรีบออกมาดูพบว่าเป็นรถของผู้เสียชีวิต ไฟลุกไหม้รุนแรงมาก ควันหนาแน่นมาก เข้าไปช่วยไม่ได้ จนรถดับเพลิงมาฉีดน้ำจึงพบร่างของผู้เสียชีวิตอยู่ท้ายรถ สันนิษฐานว่าน่าจะมองไม่เห็นทางเพราะควันเต็มถนน จนรถเสียหลักตกไปข้างทาง พยายามที่จะออกมาจากตัวรถแล้ว มีชาวบ้านพยายามจะเข้าไปช่วย เห็นผู้เสียชีวิตร้องให้ช่วยแต่เข้าไปช่วยไม่ได้ ก่อนจะน่าจะสำลักควันแล้วถูกเพลิงไหม้เสียชีวิต

นายเสนาะ บานแย้ม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.บ้านหว้า อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ก้อนเกิดเรื่องสลดไฟได้ลุกไหม้จากกลางทุ่งนา แล้วลุกลามเข้าบ้านเรือนชาวบ้าน ตนเองประสานรถดับเพลิงไปดับไฟ ระหว่างนั้นลมตีกลับพัดเข้ามาที่ชุมชนลุกลามอย่างรุนแรง กลุ่มควันจำนวนมากจนมองไม่เห็นทาง ผู้เสียชีวิตเพิ่งจะเลิกงาน กำลังกลับบ้านพัก ควันจำนวนมากทำให้มองไม่เห็นทางจนรถตกลงข้างถนนแล้วเกิดเพลิงไหม้ ที่ผ่านมาถ้ารู้หรือเห็นการเผานาเผาหญ้าจะเข้าไปห้ามปราม แต่มักจะแอบลักลอบเผากันเป็นประจำ


ด้านตำรวจจะทำการสอบสวนติดตามหาคนที่ทำการเผาทุ่งนา จนทำให้เกิดเพลิงไหม้ลุกลามวงกว้าง มีกลุ่มควันจำนวนมาก กระทั่งทำให้รถที่สัญจรไปมามองไม่เห็นทาง จนเกิดอุบัติเหตุตกข้างทางมีผู้เสียชีวิต เพื่อดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป.