เมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่อาคารอนาคตใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล แถลงอย่างเป็นทางการหลังประการผลคะแนนเลือกตั้ง 66 ซึ่งได้รับความไว้วางใจอย่างล้มหลามจากประชาชนทั้งประเทศ ชนะเลือกตั้งเป็นอันกับ 1 ว่า ว่าที่นายกฯ คนต่อไปของประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ว่าประชาชนแสดงเจตจำนงให้พรรคก้าวไกล ขอประกาศว่า พรรคก้าวไกลพร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต่อไป นี่คือการน้อมรับฉันทามติจากประชาชน ซึ่งจับขั้วฝ่ายค้านเดิมในการจัดตั้งรัฐบาล และตนพร้อมเป็นนายกฯ ของคนไทยทุกคน พร้อมฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง

นายพิธา ระบุว่า ตนจะเป็นนายกฯ ที่ดีขึ้น เราพร้อมเคารพและให้เกียรติต่อการต่อสู้ทุกฝ่ายที่ผ่านมาเพื่อประชาธิปไตย พร้อมสร้างศรัทธาให้ระบบรัฐสภา สร้างความโปร่งใส มีประสิทธิภาพให้กับรัฐสภา สำหรับ การจับขั้วตั้งรัฐบาล 5 พรรคด้วยกัน ตนได้ติดต่อไปบางพรรคติดต่อมา ได้โทรศัพท์หา น.ส.แพทองธาร หรืออุ๊งอิ๊ง ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และเชิญชวนเพื่อไทยมาจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกล ตามที่สัญญาไว้กับประชาชน ก้าวไกล เพื่อไทย ประชาชาติ ไทยสร้างไทย และเสรีรวมไทย 308 เสียง พรรคเป็นธรรม อีก 1 เป็น 309 เสียง เพียงพอสำหรับการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก ปิดประตูการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย การจัดตั้งรัฐบาล ก้าวไกลจะนำโรดแม็พที่จะคุยกับพรรคร่วม แก้ปัญหาเก่า เผชิญปัญหาใหม่ พร้อมพาประเทศไทยไปสู่อนาคต ส.ส.ร.แก้ รธน. แก้เศรษฐกิจ และลดความเหลื่อมล้ำ

เมื่อถามว่าเสียง ส.ว. กังวลหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตนไม่กังวล เรายึดฉันทามติ ทุกฝ่ายควรน้อมรับตรงนี้ หากไม่ยึดฉันทามติ จะไม่มีประโยชน์กับฝ่ายใดเลย เราคิดว่าจำเป็นต้องเอ็มโอยูสำหรับการเมืองสากล เห็นถึงการทำงาน สิ่งที่จะเกิดขึ้น 100 วันเป็นอย่างไร ต้องมีส่วนร่วมจากภาคธุรกิจด้วย ทั้งนี้ หมดเวลาทำรัฐประหารในประเทศไทยแล้ว.