ยังคงเป็นประเด็นสุขภาพที่หลายคนห่วงและกังวลอยู่อย่างต่อเนื่องสำหรับปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ที่ยังคงวนเวียนอยู่ในโลกและยังคงกลับมาระบาดเป็นพักๆทำให้คนทั้งโลกยังคงต้องดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีข่าวเรื่องโควิดสายพันธุ์ใหม่กลับมาระบาดอีกรอบ ทำให้หลายคนอยากรู้หนักมากว่าสถานการณ์ของโควิดตอนนี้เป็นอย่างไร และเราจะมีวิธีรับมือกับมันได้อย่าง
“เดลินิวส์ออนไลน์” มีโอกาสพูดคุยกับ นายแพทย์พัทธยา เรียงจันทร์ ตำแหน่งอายุรแพทย์โรคติดเชื้อ โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ เกี่ยวกับการดูแลตัวเองในสถานการณ์ที่โควิดกลับมาระบาดอีกครั้ง โดยได้รับการเปิดเผยว่า
การแพร่ระบาดของโควิดสถานการณ์ตอนนี้น่าห่วงขนาดไหน?
“มี 2 ประเด็นในเรื่องนี้ อย่างแรกสถานการณ์ของจำนวนผู้ติดเชื้อที่มากขึ้นนั้น มีคนติดเชื้อมากขึ้นอย่างชัดเจน ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วมีการระบาดเพิ่มขึ้นก็มีคนติดเชื้อเยอะขึ้นและมาช่วงนี้อีกที่มีการระบาดอีกครั้งหนึ่ง แต่ว่าในเรื่องความรุนแรงของอาการไม่ได้มากขึ้นกว่าเดิมเมื่อเทียบกับปี 64 ก็เทียบกันปีนี้เหมือนกันคือผู้ติดเชื้อไม่ได้เชื้อรุนแรง ไม่ได้เชื้อลงปอดแบบที่เราเห็น อัตราการตายจากโควิดเท่าเดิม ไม่ได้เพิ่มขึ้น ตั้งแต่ปี 65 มาพูดตรงๆเท่าเดิม แม้จะมีการพูดถึงสายพันธุ์ใหม่ที่เข้ามา แต่ตอนนี้จะเห็นภาพได้ชัดขึ้น สายพันธุ์ใหม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ระบาดได้ง่ายได้เร็ว และติดง่ายมากขึ้น แต่ความรุนแรงยังไม่มีใครที่จะบอกได้ว่ารุนแรงมากขึ้น สิ่งที่เห็นโดยรวมไม่ได้รุนแรงมากขึ้น อัตราการตายเท่าเดิมเลย”
WHO ยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว รัฐก็ไม่ได้เข้มงวดแล้ว คนไม่ใส่มากขึ้นภาพรวมจะเป็นอย่างไร?
“อย่างแรกเลยเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าโควิดคงเป็นโรคประจำถิ่นไป จะมีการระบาดเป็นช่วงๆ โดยเฉพาะอากาศเข้าฤดูหนาวและฝน เหมือนกับไข้หวัดใหญ่ แต่ต้องเฝ้าระวังอยู่ อาการมีความรุนแรงไม่มาก แต่ต้องมองดูกลุ่มบางคนที่ไม่แข็งแรงเช่นเบาหวาน ชรา น้ำหนักมาก หญิงตั้งครรภ์ ก็น่าเป็นห่วง เพราะอาจจะมีอาการรุนแรงได้ครับ”
คนกังวลจะมีการระบาดอีกครั้งใหญ่ไหม จะส่งผลกระทบไปถึงขั้นไหน พอจำกัดความออกมาได้ไหม?
“การระบาดใหญ่มันจะมีช่วงๆแน่นอนครับ แต่การระบาดใหญ่เนี่ยผมเข้าใจว่ามันอาจจะถึงขั้นในลักษณะที่ว่าถ้ามีสายพันธุ์ใหม่ที่มีความรุนแรงมากกว่าเดิมเข้ามา ซึ่งไม่รู้ว่าสายพันธุ์เหล่านี้จะกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ที่รุนแรงหรือเปล่า ถ้าสายพันธุ์ไม่ได้สร้างความรุนแรงมากกว่าเดิมหรืออยู่เท่านั้นการเฝ้าระวังก็น่าจะเหมือนกันไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออกครับ”
สโคปวิธีการดูแลตัวเอง เป็นการใส่แมสก์ พกเจลแอลกอฮอล์ และฉีดวัคซีนอยู่ไหม?
“ผมคิดว่าทั้งสามขั้นตอน ก็เป็นขั้นตอนที่ครบถ้วนแล้วนะครับ เป็นขั้นตอนสำคัญครบถ้วนแล้ว แต่ในรายละเอียดแต่ละขั้นตอนต้องเน้นการปฏิบัติให้ถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น การใส่แมสก์ ต้องใส่อย่าเปิดจมูกไว้ แบบนี้เป็นการใส่ไม่ถูกต้อง หรือใส่แมสก์แล้วเอามือจับๆ จริงๆแล้วมีเชื้อโรคเข้าไปก็ติดเชื้อง่ายกว่า มือไม่ควรโดยแมสก์ เพราะมือจะขยี้ตาโดนจมูกและสัมผัสเชื้อได้ง่าย การใส่แมสก์มีคนใช้ไม่ถูกอยู่เยอะ เท่าที่ผมคุยกับคนไข้ เขาจะบอกว่าไม่รู้ติดได้ยังไงเพราะมีการใส่แมสก์ตลอดเวลา แต่อย่างที่บอกต้องดูวิธีที่ถูกต้องด้วย ไม่งั้นก็ติดเชื้อได้อยู่ดี”
“เรื่องที่ 2 คือการล้างมือและพกเจลแอลกอฮอลล์ก็มีประโยชน์เยอะมากครับ มือเราโดยเชื้อโรคสารพัดอย่าง การหยิบจับติดเชื้อโรคได้ ล้างมือด้วยจะดีมาก เพราะจะช่วยกำจัดเชื้อโรค และใช้เจลแอลกอฮอลล์”
แนวทางการรักษาหรือการดูแลตัวเองเบื้องต้นอยากให้แนะนำค่า?
“แนวทางนี้คงใช้ได้เรื่อยๆคือสำหรับผู้ที่ติดเชื้อโควิดและลองโควิด ขอแยกเป็นสองอย่างนะครับ คนที่ติดเชื้อสิ่งสำคัญคือกักตัวเพื่อป้องกันไม่ให้นำพาเชื้อไปโดยคนอื่น คนที่ติดร่างกายให้พักผ่อนและกินยาตามอาการก็น่าจะโอเคแล้ว จากนั้นก็สามารถหายได้ เรื่องยาต้านไวรัสต้องกินไหม ตอนนี้ได้คำตอบชัดเจนและเป็นแนวทางไปทั่วโลกแล้วคือโดยทั่วๆไปไม่จำเป็นต้องใช้ ยกเว้นกลุ่มมีความเสี่ยง เช่น เบาหวาน เป็นโรค ภูมิต้านทานไม่ดี โรคต่างๆก็ว่าไปก็จะมีแนวทางของแพทย์ให้ยาต้านไวรัสกับคนกลุ่มนี้”
“ส่วนกลุ่มลองโควิดเป็นอีกเรื่องหนึ่งคนที่ติดเชื้อแล้วหายแล้ว จริงๆก็คือไข้ไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจอันหนึ่งนั่นแหละ คือไข้หวัดชนิดหนึ่งแต่รุนแรงกว่า แต่มันก็สามารถหายได้ และใช้เวลา 7-10 วันพักผ่อนหน่อยก็จะหาย หลังจากหายแล้วจะมีไอเรื้อรัง น้ำมูก อยู่พักหนึ่ง พอผ่านไป 1-2 สัปดาห์ควรน้อยลงหรือไม่มีแล้ว แต่ถ้ายังมีคือเป็นภาวะลองโควิด ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ นอนไม่หลับ ออกกำลังกายแล้วเหนื่อยง่าย สารพัดอาการที่เกิดขึ้นได้ครับ สำหรับผู้ติดเชื้อพบแพทย์และประเมินว่าต้องรักษาอย่างไรบ้าง แพทย์พิจารณาตามข้อมูลบ่งชี้เช่นเดียวกันและแพทย์จะดูว่ามันกระทบกับระบบไหนของร่างกายมีหลายระบบมากๆ การดูแลรักษาตามระบบของร่างกายครับหมอจะดูและรักษาตามนั้น”