เอเดอร์เรียน เมอร์รี เด็กชายผิวดำวัย 11 ขวบ กลายเป็นผู้เคราะห์ร้ายแบบไม่ทันตั้งตัว เมื่อเขาโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงใส่กลางอกโดยไม่มีสาเหตุ ทำให้เด็กชายได้รับบาดเจ็บสาหัส
นาคาลา เมอร์รี ผู้เป็นแม่ของเด็กชาย ให้ข้อมูลแก่ผู้สื่อข่าวว่า ลูกชายของเธอต้องทนทรมานกับอาการบาดเจ็บ โดยปอดของเขาเสียหาย ซี่โครงหักและตับฉีกขาด แต่โชคยังดีที่ตอนนี้สามารถออกจากโรงพยาบาล เพื่อกลับมารักษาตัวที่บ้านได้แล้ว
ด้านตำรวจมิสซิสซิปปี แจ้งเพียงว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เมอร์รี เล่าว่า ลูกชายของเธอโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวดำยิงใส่ที่บริเวณช่วงอก เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเป็นผู้ตอบรับการแจ้งเหตุฉุกเฉินเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายในครอบครัว ซึ่งทางบ้านของเด็กชาย เป็นผู้โทรฯ แจ้งไปเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว
เมอร์รี ผู้เป็นแม่ระบุว่า เธอเป็นคนบอกให้ เอเดอร์เรียน โทรฯ แจ้งตำรวจ หลังจากที่ผู้เป็นพ่อของลูกอีกคนหนึ่งของเธอมาหาที่บ้าน เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ด้วยท่าทีที่ดูโกรธจัด
เธอเล่าว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงบ้านของเธอ โดยชักปืนออกมาและบอกให้ทุกคนในบ้านออกมาข้างนอก แต่ลูกชายของเธอกลับโดนยิง ขณะที่เขากำลังเดินเข้าไปในตรงห้องนั่งเล่น โดยที่ชูมือทั้งสองขึ้นสูง เพื่อแสดงว่าไม่มีอาวุธในมือ
เมอร์รี เล่าว่า เมื่อเอเดอร์เรียน เดินพ้นมุมห้องออกมา เขาก็โดนยิงทันที และหลังจากที่โดนยิง ลูกชายของเธอก็เอาแต่ถามว่า “ทำไมเขา (ตำรวจ) ต้องยิงผมด้วย ผมทำอะไรผิดเหรอ”
หน่วยสืบสวนของตำรวจมิสซิสซิปปี ให้ข้อมูลวานนี้ (26 พ.ค. 2566) ว่า หน่วยงานกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาและประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงกำลังรวบรวมหลักฐาน เมื่อกระบวนการเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะมีการแบ่งปันข้อมูลแก่ทางสำนักงานอัยการรัฐต่อไป
คาร์ลอส มัวร์ ทนายความของครอบครัวเมอร์รี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ยิงปืน ซึ่งระบุตัวได้ในเวลาต่อมาว่าคือเจ้าหน้าที่ เกรก เคเพอร์ส โดนพักงานชั่วคราว ในระหว่างการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
มัวร์ กล่าวว่า เอเดอร์เรียน โชคดีมากที่มีชีวิตรอดมาได้ เขายังกล่าวตำหนิว่า ไม่มีเด็กคนไหนสมควรที่จะตกเป็นเหยื่อของการใช้ความรุนแรง จากคนที่กล่าวคำสาบานว่าจะรับใช้และปกป้องประชาชน อีกทั้งไม่สมควรยอมรับระบบที่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังและความรุนแรง โดยที่ไม่ต้องรับโทษใด ๆ
อนึ่ง เมืองอินเดียโนลาในรัฐมิสซิสซิปปี ถือว่าเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่มีคนผิวดำเป็นประชากรส่วนใหญ่ และตามข้อมูลของสำนักข่าววอชิงตันโพสต์ ซึ่งเป็นข้อมูลเฉพาะของช่วงปีนี้ มีประชาชนที่โดนยิงจนเสียชีวิตโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วถึง 407 ราย
เครดิตภาพ : AFP
