เมื่อเวลา 10.23 น. วันที่ 27 พ.ค. พ.ต.ท.พรชัย โรจนวิภาต สว.(สอบสวน) สน.ดินแดง รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในซอยหมอเหล็ง ถนนราชปรารถ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยพญาไท นายณันทพงศ์ สินมา ผอ.เขตราชเทวี ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุมีลักษณะเป็นชุมชนซอยคับแคบ พบเพลิงลุกไหม้บ้านเลขที่ 543 เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวกั้นเป็นห้องเช่า 6 ห้อง มีคนเช่าอยู่ 4 ห้อง เพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ใช้น้ำทำการดับเพลิง 15 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิตอยู่ในซากกองเพลิง 1 ศพ ทราบชื่อต่อมาว่า นายสดใส โยธานัน อายุ 28 ปี สภาพนอนหงาย ไม่สวมเสื้อผ้า ถูกไฟคลอกทั้งร่าง นอกจากนี้ยังพบว่า มีรถ จยย. ถูกไฟเผาไหม้เสียหาย จำนวน 2 คัน เป็นรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีบีอาร์ 150 อาร์ สีแดง-ดำ ทะเบียน 4 กฐ 1575 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็น จยย. ของผู้ตาย และรถ จยย. ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีขาว-แดง ทะเบียน 7 กค 6765 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในที่เกิดเหตุ
ด้านนายณันทพงศ์ สินมา ผู้อำนวยการเขตราชเทวี กล่าวว่า บริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว แบ่งเป็นบ้านเช่า 6 ห้อง มีผู้พักอาศัยอยู่ 4 ห้อง และห้องว่างอยู่ 2 ห้อง โดยขณะเกิดเหตุเพลิงลุกไหม้บ้านมอดหมด เจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย เบื้องต้นได้ประสานกับทางมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ เพื่อช่วยเหลือให้ที่พักพิงแก่ผู้ที่ไร้ที่พักอาศัยเป็นการชั่วคราวต่อไป ส่วนสาเหตุและผู้เสียชีวิตนั้น อยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
จากการสอบสวน น.ส.กรรณิกา กองสี อายุ 22 ปี แฟนสาวของผู้เสียชีวิต ทราบว่า แฟนหนุ่มเป็น รปภ. บริษัท ซิเคียว ริทัช ทำงานรักษาความปลอดภัยเวรดึก ที่คอนโดฯ แห่งหนึ่งย่านสนามเป้า เมื่อออกเวรตอนเวลา 07.00 น. ก็กลับมานอนหลับที่บ้านเช่า ส่วนตนออกไปทำงานร้านชา คาดว่าระหว่างเกิดเหตุ แฟนนอนหลับนั้น ได้พยายามวิ่งหนีออกจากห้องพัก แต่น่าจะล้ม ทำให้ถูกเพลิงเผาไหม้ยังบริเวณดังกล่าว
ด้านนายสมพงศ์ ฉลาด อายุ 63 ปี วิน จยย. เบอร์ 31ซอยหมอเหล็ง กล่าวว่า ผู้ตายอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าดังกล่าวกับภรรยาเพียง 2 คน เมื่อช่วงเช้า ตนก็ได้ขี่วินไปส่งภรรยาของผู้ตายไปทำงานที่ห้างเซ็นจูรี่ ย่านพญาไท ส่วนการเสียชีวิตคาดว่าผู้ตายอาจจะถูกไฟดูดขณะเกิดเพลิงไหม้ เนื่องจากบริเวณห้องเช่าบริเวณนั้น จะมีเสาไฟขนาดเล็ก ความสูงประมาณ 1 เมตร และมีสายไฟที่พาดลงมาตลอดทางเดิน ประกอบกับเจ้าหน้าที่อาสาดับเพลิงที่เข้ามาที่เกิดเหตุให้ข้อมูลว่า ตอนฉีดน้ำดับไฟอยู่ เห็นกระแสไฟสปาร์กมีเสียงระเบิดเป็นระยะๆ ใกล้กับที่ผู้ตายนอนเสียชีวิต ทำให้อาสากู้ภัยและดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือผู้เสียชีวิตได้ เนื่องจากยังไม่มีการตัดกระแสไฟ
เบื้องต้นจึงประสานให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เข้ามาตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป.
