สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ว่า ลูกเสือชีตาห์เหล่านี้ นับเป็นลูกเสือชุดแรกที่เกิดในอินเดีย ในรอบกว่า 70 ปี หลังเสือชีตาห์ในประเทศสูญพันธุ์ไปเมื่อปี 2495 จากการล่า และการสูญเสียที่อยู่อาศัย โดยแม่ของพวกมันเป็นหนึ่งในเสือชีตาห์ 20 ตัว ที่ทางการอินเดียนำมาจากนามิเบีย กับแอฟริกาใต้ ตามส่วนหนึ่งของแผนการฟื้นฟูสายพันธุ์สัตว์บก ซึ่งวิ่งเร็วที่สุดในโลก
อย่างไรก็ตาม ลูกเสือชีตาห์ตัวแรก ตายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้สัตวแพทย์ของอุทยานแห่งชาติคูโน ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐมัธยประเทศ ต้องคอยดูแลแม่เสือ และลูกเสือที่เหลืออีก 3 ตัวอย่างใกล้ชิด กระทั่งต่อมาในช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดี ซึ่งมีอุณหภูมิสูงถึง 47 องศาเซลเซียส ลูกเสือมีอาการอ่อนแรง จนเจ้าหน้าที่ต้องเข้าแทรกแซงเพื่อช่วยเหลือพวกมัน
The Prime Minister was ill advised about #ProjectCheetah, says
— IndiaToday (@IndiaToday) May 25, 2023
Valmik Thapar, Naturalist and Conservationist#NewsToday #Cheetahs #KunoNationalPark | @sardesairajdeep pic.twitter.com/22KwuDfZu9
“พวกมันอ่อนแรง, มีน้ำหนักน้อย และขาดน้ำอย่างมาก ซึ่งหลังจากนั้น ลูกเสือก็ตายไปอีก 2 ตัว” เจ้าหน้าที่ป่าไม้ กล่าวเพิ่มเติมในแถลงการณ์ว่า ลูกเสือตัวสุดท้ายที่รอดชีวิต กำลังได้รับการรักษาในสถานดูแลสัตว์ที่มีอาการหนัก
แม้เจ้าหน้าที่ป่าไม่ได้บอกถึงสาเหตุที่ทำให้ลูกเสือชีตาห์ตาย แต่มีการเชื่อกันว่า คลื่นความร้อนระอุในอินเดีย ทำให้พวกมันอ่อนแอ ขณะที่ผู้สันทัดกรณีหลายคนระบุว่า อัตราการรอดชีวิตของลูกเสือชีตาห์ ทั้งที่อยู่ในป่า และในความดูแลของมนุษย์ อยู่ในระดับต่ำ
ทั้งนี้ เสือชีตาห์โตเต็มวัยในป่าทั่วโลกเหลือน้อยกว่า 7,000 ตัว และในปัจจุบัน พวกมันมีอยู่น้อยกว่า 9% ของจำนวนเดิม ซึ่งที่อยู่อาศัยของเสือชีตาห์ที่ลดลงนั้น คือภัยคุกคามใหญ่หลวง อันเป็นผลจากประชากรมนุษย์ที่เพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ.
เครดิตภาพ : AFP