เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เกี่ยวกับกรณีที่มีผู้มายื่นเรื่องร้องเรียนต่อกกต.ให้ตรวจสอบ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล จากกรณีการถือครองหุ้นบมจ.ITV จำนวน 42,000 หุ้นว่า เป็นการกระทำผิดขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ หรือไม่นั้น ล่าสุดมีความคืบหน้า ขั้นตอนการตรวจสอบ จาก กกต.โดยในวันที่ 29 พ.ค.นี้ ช่วงเช้าทางสำนักงานกกต.ได้เชิญ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาให้การยืนยัน ยื่นคำร้องดังกล่าวต่อกกต.หรือไม่ พร้อมทั้งให้ถ้อยคำเพิ่มเติมด้วย
นอกจากนี้ ยังได้เชิญ นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำพิราบขาว 2006 และนายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน มาให้ถ้อยคำในการยื่นเรื่องร้องเรียนเดียวกันด้วย ส่วนกรณีของนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย คาดว่าสำนักงานกกต.จะได้มีการเชิญมาให้ถ้อยคำในลำดับถัดไปภายในสัปดาห์นี้เช่นเดียวกัน
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กล่าวว่า ในวันที่ 29 พ.ค. นี้ กกต.เชิญไปตนให้ถ้อยคำเรื่องหุ้น ITV ซึ่งจะได้ถือโอกาสนี้ยื่นหลักฐานอ้างอิงจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญปี 2563 จำนวน 1 เรื่อง และคำวินิจฉัยกกต. เมื่อปี2564 จำนวน 4 เรื่อง ซึ่งมีทั้งประเด็นการขอให้วินิจฉัยย้อนหลังไปว่า นายพิธาจะพ้นสมาชิกภาพตั้งแต่ปี 2562 หรือไม่ และจะต้องดำเนินคดีอาญา ตามแนวคำวินิจฉัย กกต. หรือไม่ด้วย
โดยจะเป็นการนำข้อมูลเอกสารมายื่นต่อกกต.เพื่อเทียบเคียงกรณีของนายพิธา ในกรณีคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อปี 2563 นั้นเป็นกรณีของนายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ที่ศาลวินิจฉัยให้พ้นสมาชิกภาพส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล พร้อมกันนี้ ในส่วนของคำวินิจฉัยของกกต. 4 เรื่องในช่วงปี 2564 ที่กกต.มีมติส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยมีกรณีของผู้สมัครส.ส. ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคอนาคตใหม่
ทั้งนี้ ผู้สมัครส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ รายดังกล่าวได้ยื่นเอกสารรับสมัครเลือกตั้งส.ส.ต่อ กกต. เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2562 ซึ่งยื่นเอกสารวันเดียวกับนายพิธา โดยที่นายพิธา ถือหุ้นITV อย่างไรก็ตามกรณีของนายพิธา จะแตกต่างจากกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเมื่อศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้สิ้นสมาชิกภาพ เนื่องจากถือครองหุ้น มีผลเฉพาะตัวนายธนาธร ขณะที่ในกรณีนายพิธา เนื่องจากได้เขียนข้อบังคับพรรคก้าวไกลกำหนดคุณสมบัติและข้อห้ามลักษณะเกี่ยวกับการถือหุ้นไว้ ดังนั้นหาก นายพิธา ซึ่งเป็นผู้เซ็นรับรองผู้รับสมัครส.ส.400 เขตเลือกตั้งของพรรค ศาลแล้วจะธรรมนูญวินิจฉัยว่าขาดสมาชิกภาพตั้งแต่วันยื่นสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งก็จะมีผลว่านายพิธา ไม่ใช่หัวหน้าพรรค รวมทั้งไม่ใช่สมาชิกพรรคที่มาเซ็นรับรองผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ของพรรคก้าวไกล อีกด้วย
ด้านนายนายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่าในวันจันทร์นี้ เวลา 13.30 น.ทางสำนักกกต.ได้นัดหมายเชิญตนไปให้การยืนยันคำร้องที่ยื่นต่อกกต.ให้ตรวจสอบกรณีนายพิธาถือหุ้น ITV ซึ่งตนเองจะไปยืนยันต่อกกต.ว่าเป็นการตรวจสอบคุณสมบัตินายพิธา ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และก่อนหน้านี้ เลขาปปช.ได้มีการแถลงว่านายพิธาได้ยื่นการถือครองหุ้น ITV จริง
พร้อมกันนี้ นายสนธิญา ได้ให้ความเห็นว่าโดยตามขั้นตอนถ้ากกต.มีคำวินิจฉัยว่าให้ส่งเรื่องของนายพิธาไปยังศาลรัฐธรรมนูญพิจารณานั้น หากกกต.มีการรับรองส.ส.ครบ 95 % ก็จะเป็นขั้นตอนเปิดประชุมสภาและเลือกประธานสภา ซึ่งเมื่อได้ผู้ที่มาดำรงตำแหน่งประธานสภาแล้วประธานสภาฯก็จะได้มีการเรียกประชุมส.ส. โดยมีวาระเสนอชื่อและเลือกนายกฯ ทั้งนี้ หากมีการเสนอชื่อนายพิธา เป็นนายกฯ แล้วนั้นทั้งส.ส.และส.ว.จะเล็งเห็นปัญหาการโหวตเลือกนายพิธา เป็นนายกฯ ที่จะเกิดขึ้นภายหลังตามมา นอกจากนี้ ผู้ที่เป็นประธานสภาฯ จะเสนอชื่อนายพิธา ให้ทรงโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นนายกฯ นั้น จะเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทหรือไม่ ถ้าหากหลังจากนั้นศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่านายพิธา มีปัญหาคุณสมบัติใดๆที่กระทบต่อการสมัครรับเลือกตั้งเป็นแคนดิเดตนายก พรรคก้าวไกล.