เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่สำนักงานอัยการศาลแขวงพระนครเหนือ พนักงานอัยการคดีศาลแขวงนัดฟังคำสั่งในคดีที่ พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม นำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรืออดีต ส.ส.เต้ พระราม 7 เป็นจำเลยในความผิดพยายามข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ และทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ

กรณีที่เมื่อวันที่ 29 พ.ค. จำเลยได้พูดทางโทรศัพท์ข่มขู่ผู้เสียหาย นายเดชา กิตติวิทยานันท์ อาชีพทนายความ ซึ่งเป็นผู้เสียหาย โดยจำเลยบอกให้ผู้เสียหายหยุดการวิพากษ์วิจารณ์ให้ความเห็นเกี่ยวกับคดีของ น.ส.ภัทรธิดา หรือ นิดา หรือ แตงโม พัชรวีระพงษ์ โดยใช้ถ้อยคำว่า ทำนองข่มขู่ว่าอาจจะมีอันตรายกับร่างกาย โดยใช้วิธีนอกระบบ เป็นการทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ แต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล เนื่องจากผู้เสียหายไม่ได้จำนน หวาดกลัวต่อคำขู่ ของจำเลยแต่อย่างใด อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย การกระทำของจำเลย เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 80, 90, 309, 392

นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า สำหรับคดีก่อนหน้านี้ จำเลยเข้าพบพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาให้จำเลยทราบ และทำการสอบสวนแล้ว ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ ซึ่งระหว่างสอบสวน จำเลยไม่ได้ถูกควบคุมตัว โดยพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอผัดฟ้องจำเลยต่อศาล ปัจจุบันคดีพ้นกำหนดระยะเวลาผัดฟ้อง ทางอัยการโจทก์จึงขออนุญาตฟ้องต่ออัยการสูงสุด และอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งอนุญาตฟ้องจำเลยในคดีนี้แล้ว ทางพนักงานอัยการคดีศาลแขวงพระนครเหนือ ได้นำตัว นายมงคลกิตติ์ มายื่นฟ้องต่อศาลในวันนี้ ซึ่งอยู่ภายในกำหนดอายุความ

โดยศาลแขวงพระนครเหนือได้มีคำสั่งประทับฟ้อง พร้อมนัดคุ้มครองสิทธิ และนัดพร้อมในวันที่ 3 ก.ค. เวลา 09.00 น.