สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์พื้นที่บางแห่งในกรุงมอสโกและเขตโดยรอบ ซึ่งรวมอยู่ในภูมิภาคมอสโก ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีจากอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้อาคารหลายแห่งได้รับความเสียหาย เคราะห์ดีไม่มีผู้เสียชีวิต แต่มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “เป็นฝีมือของยูเครน ซึ่งต้องการสร้างความหวาดกลัวให้กับรัสเซีย” และเป็นการที่รัฐบาลเคียฟต้องการตอบโต้ การที่กองทัพรัสเซียปฏิบัติการโจมตีทางทหาร เมื่อไม่นานมานี้ สร้างความเสียหายให้กับอาคารที่ทำการ สำนักข่าวกรองแห่งชาติของยูเครน

อย่างไรก็ตาม ปูติน ไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่า จะตอบโต้แบบใดหรือไม่ ขณะที่ กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ยืนยันว่า ระบบป้องกันทางอากาศสามารถตอบสนองต่อการโจมตีครั้งนี้ “ได้อย่างทันท่วงที” พร้อมทั้งระบุว่า กองทัพยูเครนใช้โดรน 8 ลำ ซึ่งระบบสกัดได้ 5 ลำ ส่วนอีก 3 ลำ ขัดข้องและตกสู่พื้นเอง
Kiev 'happy' over terrorist drone attack on Moscow
— RT (@RT_com) May 31, 2023
Read more: https://t.co/q9Tzl4lClk pic.twitter.com/aAMjduWC4V
ด้าน กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ออกแถลงการณ์ประณามกลุ่มประเทศตะวันตก ซึ่งสนับสนุนรัฐบาลเคียฟ ให้เลือกเส้นทางเดินที่อันตรายเพิ่มขึ้น รวมถึง “การเป็นผู้ก่อการร้ายเสียเอง” ต่อมากระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่า รัฐบาลวอชิงตัน “ไม่เคยสนับสนุน” ให้ยูเครนโจมตีทางทหารข้ามพรมแดนเข้าไปในรัสเซีย
ขณะที่ นายมิไคโล โพโดลยัก ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า รัฐบาลเคียฟ “ไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรง”
อนึ่ง กรุงมอสโก ตั้งอยู่ห่างจากชายแดนของรัสเซียฝั่งตะวันตกซึ่งติดกับยูเครน เป็นระยะทางมากกว่า 1,000 กิโลเมตร และไม่เคยตกเป็นเป้าหมายทางทหารมาก่อน นับตั้งแต่กองทัพรัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565.
เครดิตภาพ : AFP