จากกรณีวัยรุ่นผู้ชาย 2 คน ซึ่งเป็นคนของแก๊งเงินกู้รายหนึ่งในเมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นำนามบัตรกู้เงินมาโปรยตามหน้าบ้านเรือนประชาชน จังหวะนั้นผู้สื่อข่าวอยู่ด้านหน้าบ้าน จึงตะโกนขออย่ามาโปรยหลังนี้ เพราะไม่มีใครต้องการกู้และยังสร้างความสกปรกอีกด้วย ทำให้กลุ่มเงินกู้ไม่พอใจ ด่าทอแจกของลับ พร้อมทั้งหยิบหินพยายามไล่ทำร้ายร่างกาย ส่วนอีกกรณีเป็นแก๊งเงินกู้นอกระบบ เข้ามาก่อเหตุใช้กาวตราช้างหยอดรูกุญแจประตูร้าน สาวเจ้าของบาร์เบียร์ วัย 31 ปี ได้รับความเสียหายพร้อมกับข่มขู่ สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้เสียหาย ตามที่ได้นำข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา สั่งการให้ พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังชุดสืบสวนเข้าควบคุมตัว นายสราวุฒิ ภูติยา เจ้าของเงินกู้ และนายวณัฐถากร เพชรกลั่นพะเนา โดยทั้งคู่ได้เดินทางเข้ามอบตัวหลังทราบว่าตนเองตกเป็นข่าว โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ว่าเป็นผู้ก่อเหตุใช้กาวตราช้างหยอดเข้าไปในรูกุญแจของ ร้านบาร์เบียร์ภายในซอยเกษรสิน 9 อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

โดยนายวณัฐถากร ยอมรับว่าเป็นคนหยอดกาว สาเหตุเกิดจากโมโหที่ลูกหนี้ไม่ยอมรับโทรศัพท์มือถือ ติดต่อไม่ได้ เรียกที่หน้าร้านก็ไม่ยอมเปิด ประกอบกับขาดการจ่ายดอกเบี้ยมาแล้วถึง 3 วัน จากเงินต้น 15,000 บาท ตกลงจ่ายวันละ 300 บาท จึงตัดสินใจก่อเหตุไป หลังจากที่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามอยู่ก็ได้เดินทางเข้ามามอบตัวดังกล่าว พร้อมกล่าวขอโทษกับการกระทำทั้งหมดด้วย

ส่วนอีกกรณีแก๊งเงินกู้ได้เอานามบัตรแนะนำเงินด่วน ไปโปรยแจกตามบ้านเรือนประชาชน จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์กระทบกระทั้งกับผู้สื่อข่าวท้องถิ่นเมืองพัทยาขึ้น ได้เดินทางเข้ามอบตัวเช่นกันทราบชื่อคือ นายชินวัฒน์ โพธิ์ศรีงาม และนายณัฐิวุฒิ สุดประเสริฐ โดยทั้งคู่ยอมรับว่าเป็นคนที่ปรากฏในคลิปที่ถ่ายไว้จริง โดยนายณัฐิวุฒิ ยอมรับว่าเป็นคนขี่ จยย. ส่วนนายชินวัฒน์ เป็นคนโปรยแจกนามบัตร ขณะนั่นรู้สึกไม่พอใจที่ถูกสั่งห้าม จึงด่าทอแจกของลับออกไป ส่วนที่จะเอาหินไล่ทำร้ายนั้นเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น ซึ่งวันนี้ก็เดินทางมามอบตัว และก็ขอโทษที่ล่วงเกินไป

เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหากับตัวนายสราวุฒิ และนายวณัฐถากร ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางวัน, ทำให้เสียทรัพย์, ประกอบธุรกิจให้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับทางการค้าปกติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้บุคคลอื่นยื่มเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฏหมายกำหนด, กระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ การใช้ความรุนแรงหรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้” ส่วนนายชินวัฒน์ และนายณัฐิวุฒิ แจ้งข้อหา “ข่มขู่ ขู่เข็ญให้กลัว ดูหมิ่นซึ่งหน้า และ พ.ร.บ.ความสะอาด” ส่งดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป.