สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ว่า สำนักงานป่าไม้แคนาดารายงานสถานการณ์ไฟป่าในประเทศ ซึ่งปะทุเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ว่าไฟป่าอย่างน้อย 413 จุด สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่มากกว่า 10 ล้านเอเคอร์ นับจนถึงเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา จากจำนวนดังกล่าวอย่างน้อย 249 จุด “ยังไม่สามารถควบคุมได้”


ด้านทางการรัฐควิเบก ทางตะวันออกของแคนาดา และเป็นหนึ่งในพื้นที่เผชิญกับไฟป่ารอบนี้รุนแรงที่สุด คาดการณ์ว่า การควบคุมไฟป่าอาจต้องใช้เวลา “จนถึงช่วงฤดูร้อนปีนี้”

ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันร่างกายจากการสูดดมควันพิษ ซึ่งเป็นผลจากวิกฤติไฟป่าในแคนาดา ระหว่างเดินอยู่ภายในสวนสาธารณะเซ็นทรัล ปาร์ค ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา


อนึ่ง ไฟป่าในแคนาดาปีนี้เริ่มที่ภูมิภาคทางตะวันตก คือรัฐแอลเบอร์ตาและรัฐซัสแคตเชวัน ก่อนที่ฟากฝั่งตะวันออก หนึ่งในนั้นคือรัฐโนวาสโกเชีย จะเผชิญกับไฟป่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ไปในทางเดียวกันว่า เป็นผลจากมวลอากาศร้อนเคลื่อนตัว จากภาคตะวันตกไปยังภาคตะวันออก ส่วนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของแคนาดาวิเคราะห์ด้วยว่า จำนวนไฟป่าในประเทศจะเพิ่มขึ้นอีกสองเท่าของระดับปัจจุบัน ภายในปี 2593


ขณะที่กลุ่มควันซึ่งเป็นผลจากการปะทุ และการดับไฟป่าในแคนาดา ลอยลงไปปกคลุมพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ จนต้องมีการประกาศเตือนภัยสภาพอากาศ

ยิ่งไปกว่านั้น มีรายงานจากสถาบันวิจัยสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมแห่งนอร์เวย์ ( เอ็นไอแอลยู ) ว่ากลุ่มควันจากการดับไฟป่าของแคนาดาลอยผ่านกรีนแลนด์ ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของเดนมาร์ก ต่อไปยังไอซ์แลนด์ และเริ่มเข้าสู่นอร์เวย์ โดยมีการคาดการณ์ด้วยว่า กลุ่มควันอาจปกคลุมเหนือพื้นที่บางส่วนของยุโรปด้วย แต่จะอยู่ในระดับเบาบาง.

เครดิตภาพ : AFP