เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 66 นายชัย วัชรงค์ หรือ “หมอชัย” นักวิชาการทางด้านการเกษตรสมัยใหม่ ในฐานะคณะกรรมการทางด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย ได้เปิดเผยผ่านทางเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับปัญหาเรื่องหมูเถื่อนที่ลักลอบเข้ามาในประเทศไทยนั้น เป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นมาเป็นปีแล้ว และเป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่เพียงแต่กระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนเท่านั้น แต่มันยังมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อการทำลายอาชีพของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในประเทศ ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ

การที่ปัญหาใหญ่ระดับนี้ถูกปล่อยให้มีสภาพเรื้อรังมานับปีเช่นนี้ ย่อมสะท้อนให้เห็นถึงความด้อยประสิทธิภาพอย่างยิ่งในการบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ ความล่าช้าในการดำเนินคดี เพื่อสืบสวนสอบสวนขยายผลเอาผิดกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งๆ ที่มีหลักฐานการกระทำความผิดที่ชัดแจ้งโจ๋งครึ่มขนาดนั้น ย่อมทำให้ประชาชนมองออกว่า ต้องมีขบวนการสมคบคิดกันเพื่อปกป้องผู้กระทำความผิดอย่างไร้ยางอายแน่นอน

นอกจากหมูเถื่อนที่ลักลอบนำเข้ามาจากบราซิลและสเปน จำนวน 161 ตู้ ที่ค้างเติ่งอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จนถึงปัจจุบันเวลาผ่านมาเนิ่นนานแล้ว ก็ยังไม่ได้ถูกทำลายทิ้ง และผู้กระทำผิดก็ยังคงลอยนวลอยู่ ยังมีเรื่องบัดซบที่เกิดขึ้นในท้องที่ สภ.เมืองนครปฐม ที่เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ ได้เข้าไปตรวจค้นที่ห้องเย็นแห่งหนึ่ง พบเนื้อหมูเถื่อนจำนวน 59,089 กิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. 65 ผ่านการแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองนครปฐม มาแล้ว 5 ครั้ง ตั้งแต่ลงบันทึกการยึดอายัดของกลาง ไปจนถึงการแจ้งเพื่อเข้ายึดของกลาง การถูกขัดขวางจากเจ้าของห้องเย็นและบรรดาลูกสมุน

ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 66 เป็นการร้องทุกข์กล่าวโทษว่าถูกขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ในการเข้าไปที่ห้องเย็น เพื่อนำของกลางที่อายัดเอาไว้ไปทำลาย ความผิดซึ่งๆ หน้าเจ้าหน้าที่เช่นนี้ กลับไม่ได้รับการจัดการตามกฎหมาย เรื่องถูกปล่อยทิ้งไว้นานถึงสี่เดือนครึ่ง จนถึงวันที่ 8 มิ.ย. 66 ทาง สภ.เมืองนครปฐม เพิ่งจะมีหนังสือไปเรียกเจ้าหน้าที่กองสารวัตรฯ กรมปศุสัตว์ ไปให้ปากคำเพิ่มเติม ป่านนี้ของกลางจะยังอยู่ให้เห็นหน้าหรือไม่ เจ้าหน้าที่จงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อเอื้อประโยชน์แก่พวกพ้องหรือไม่ ทำไมคนเหล่านี้จึงกล้าบังอาจละเมิดกฎหมายบ้านเมืองกันอย่างโจ๋งครึ่มขนาดนั้น

ปัญหาเรื่องหมูเถื่อนนี้ เป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรสลับซับซ้อนมากเลย หลักฐานการกระทำความผิดก็ชัดแจ้งขนาดนั้น ถ้าจะจัดการลากคอคนกระทำผิดมาลงโทษให้ได้ ก็น่าจะใช้เวลาไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ก็น่าจะได้ตัว หากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขให้เด็ดขาดภายในสิ้นเดือน มิ.ย. นี้ คนที่ต้องรับผิดชอบก็คงหนีไม่พ้นเจ้าหน้าที่รัฐ ตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรี (ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ลงมาจนถึง ผบ.ตร.-ผบช.ภาค7-ผบก.ตร.นครปฐม-ผกก.สภ.เมืองนครปฐม รวมถึงเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรที่เกี่ยวข้องทุกคน

“การปราบปรามปัญหาหมูเถื่อนให้ราบคาบ เป็นบททดสอบที่หมูที่สุดแล้วในการประเมินขีดความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลนี้ หากพรรคเพื่อไทยได้เข้ามารับผิดชอบในเรื่องนี้ จะสาธิตให้ดูว่า การบริหารราชการแผ่นดินที่ดีมีประสิทธิภาพ โปร่งใสและเป็นธรรมนั้น เขาต้องทำกันอย่างไร” นายชัย ระบุ