ดอกไม้แต่ละช่วงฤดูกาลมีความสวยงามต่างกัน เช่นเดียวกับช่วงเวลานี้ “ดอกไม้ในฤดูฝน” ที่กำลังออกดอกสวยทักทายชวนเรียนรู้ใกล้ชิดธรรมชาติ ทั้งนี้ชวนสำรวจธรรมชาติ นำเรื่องน่ารู้จากดอกไม้ที่งอกงามอวดโฉมให้ชม โดย พิชญ์สินี มีธง นักวิชาการกองวิชาการพฤกษศาสตร์ สำนักวิชาการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติให้ความรู้ พาชมดอกไม้ในธรรมชาติ ชมความงามทุ่งดอกไม้ฤดูฝน ทั้งมีคำตอบเหตุใดพรรณไม้เหล่านี้จึงบานในฤดูกาลนี้

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตและการออกดอกของพืชมีหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ชนิดพันธุ์ อุณหภูมิ แสงแดด หรือความชื้นในดิน โดยถ้าพูดถึงการเจริญเติบโตหรือการออกดอกในฤดูฝนน่าจะเกี่ยวเนื่องกับชนิดพันธุ์  โดยช่วงฤดูฝน ดอกไม้นานาชนิดได้รับความชื้นจาก นํ้าฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง และเป็นช่วงที่เหมาะสมที่พืชล้มลุกจะกลับมาเจริญเติบโตอีกครั้ง ซึ่งบางชนิดมีหัวสะสมอาหารอยู่ใต้ดินเพื่อรอวันโผล่พ้นดินออกมาให้ชม

“ดอกไม้บางประเภทจะออกดอกผลิบานเฉพาะหน้าฝน จากที่กล่าวส่วนใหญ่เป็น พันธุ์ไม้ชนิดล้มลุก หรือไม้หัวที่อยู่ใต้ดิน โดยไม้เหล่านี้จะมีระยะพักตัวอยู่ใต้ดินในช่วงฤดูหนาวหรือฤดูร้อน แต่พอถึงฤดูฝน หลังจากได้รับนํ้าฝนก็จะฟื้นตัวกลับมาออกดอกอีกครั้ง และสำหรับดอกไม้เด่นที่เป็นจุดหมายการชมได้แก่ กระเจียว ดอกไม้ที่หลายคนยกให้เป็นราชินีแห่งป่าฝน  และยังมี ดอกหงอนนาค ดอกเทียนปีกผีเสื้อ โดยชนิดนี้เป็นไม้หายากของประเทศไทย เป็นไม้ถิ่นเดียวและยังมีอีกหลากหลายชนิดที่เติมสีสันความสดชื่นให้กับฤดูฝน”

นักวิชาการกองวิชาการพฤกษศาสตร์พิชญ์สินี อธิบายเพิ่มอีกว่า ไม้ล้มลุกบางชนิด อย่างเช่น เทียนปีกผีเสื้อ หลังจากผลิดอกติดเมล็ด เมื่อเปลี่ยนฤดูผ่านเข้าสู่หนาวด้วยอุณหภูมิ ความชื้น ปริมาณนํ้าไม่เพียงพอ เมล็ดไม่สามารถเติบโตก็จะพักตัวหยุดการเจริญเติบโตชั่วคราว พอถึงฤดูฝนมีนํ้า อากาศ ฯลฯ ที่เหมาะสมก็จะกลับมางอกขึ้นใหม่  

เทียนนกแก้ว ภาพ ดร.ณัฐพล นพพรเจริญกุล

ดอกเทียนปีกผีเสื้อ จากที่กล่าวเป็นพืชถิ่นเดียว พบการ กระจายพันธุ์ในสองพื้นที่ในจังหวัดตากและกาญจนบุรี โดยเฉพาะดอยหัวหมดซึ่งเป็นจุดหมายการชมดอกไม้ โดยที่นี่เป็นยอดเขาที่ปกคลุมด้วยต้นหญ้า ไม่ค่อยมีต้นไม้ใหญ่ขึ้น ถึงช่วงฤดูฝนต้นเทียนปีกผีเสื้อที่ทิ้งเมล็ดไว้ เมื่อได้รับความชื้น นํ้าฝนชะตะกอนลงมาทำให้มีปริมาณดินเพิ่มขึ้น มีความสมบูรณ์กว่าฤดูที่ผ่านมาก็จะเจริญเติบโตงอกงามออก ดอกผลิใบสวยให้ชม”

ดอกเทียนปีกผีเสื้อ ดอกเป็นสีชมพูอมม่วง โดยลักษณะดอกคล้ายปีกผีเสื้อจึงดูเหมือนผีเสื้อกำลังบินอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้า จากที่กล่าวเป็นพืชถิ่นเดียวของไทย ขึ้นตามพื้นที่เขาหินปูนที่โล่ง ออกดอกในช่วงหน้าฝนเดือนสิงหาคมถึงกันยายน เป็นหนึ่งในดอกไม้หน้าฝนที่ชมได้เฉพาะฤดูฝน ส่งสัญญาณการถึงของฤดูกาล

ดอกปทุมมา หรือบัวสวรรค์ หรือกระเจียวบัว แต่โดยมากมักเรียก ปทุมมา ว่า กระเจียว ก็เช่นกัน เป็นอีกหนึ่งสัญญาณบอกเล่าฤดูฝน และเมื่อพูดถึงกระเจียวจะนึกถึงทุ่งดอกกระเจียวธรรมชาติที่จังหวัดชัยภูมิ แต่ทั้งนี้พืชกลุ่มนี้มีหลายชนิดและมีการพัฒนาพันธุ์หลากหลาย

“กระเจียวเป็นไม้ล้มลุกมีเหง้าอยู่ใต้ดิน โดยช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อนเหง้าจะพักตัวหรือการเติบโต อาจได้เห็นเพียงแต่ใบ แต่ไม่มีดอกเมื่อถึงหน้าฝนมีความชื้น อุณหภูมิเหมาะสม ได้รับนํ้า แสงเพียงพอจากที่หลับใหลอยู่ใต้ดินก็จะงอกงามเติบโต ผลิดอก ออกใบให้ชมซึ่งเป็นการปรับตัวของพืชในธรรมชาติ”

นักวิชาการกองวิชาการพฤกษศาสตร์พิชญ์สินี เล่าเพิ่มอีกว่า ดอกกระเจียวมีสีชมพูอมม่วง โดยจะพบปทุมมาได้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกโดยขึ้นในที่โล่ง หรือป่าผลัดใบ ดอกปทุมมาจะบานในช่วงเดือนสิงหาคม โดยทุ่งดอกกระเจียวในธรรมชาติ เส้นทางชมดอกไม้ที่เป็นจุดหมาย ได้แก่ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิต และอุทยานแห่งชาติไทรทอง อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ โดยดอกกระเจียวจะแทงช่อออกดอกให้ชมเป็นทุ่งกว้าง

นอกจากนี้ที่ต้องกล่าวถึง ดอกหงอนนาค หรือ หญ้าหงอนเหงือก หรือนํ้าค้างกลางเที่ยง ดอกจะออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ส่วนมากมี สีม่วงอ่อนหรือม่วงนํ้าเงิน หรืออาจเป็นสีฟ้าอ่อนจนเกือบขาว หรือบางคนอาจมองเป็นสีชมพู ดอกจะบานเมื่อมีแสงแดด และมักมีหยดนํ้าติดตรงเกสร จึงเป็นที่มาของชื่อนํ้าค้างกลางเที่ยง พบทุกภาคในไทย โดยเฉพาะตามทุ่งหญ้าที่โล่งในป่าผลัดใบหรือป่าสนเขา ออกดอกช่วงหน้าฝนในเดือนสิงหาคมถึงกันยายน โดยจุดหมายชมดอกไม้ได้แก่ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์

ในช่วงฤดูฝนยังมีดอกไม้ป่าอีกหลายชนิดที่มีความสวยงามและมีความหลากหลายที่ต่างไปจากฤดูกาลอื่น ๆ และนอกจากความสวยงามของดอกไม้  ใบไม้ ของพืชบางชนิดก็สวยงามดังเช่น กลุ่มบีโกเนีย เฟิร์นชนิดต่าง ๆ เป็นต้น และนอกจากดอกไม้หน้าฝนที่พบเห็นละลานตาในธรรมชาติ

ไม้ที่นำมาปลูกตกแต่งจัดเป็นสวนดอกไม้เป็นอีกเส้นทางชมดอกไม้หน้าฝนซึ่งก็มีความสวยงามหลายชนิดเช่น ปอเทือง พืชล้มลุกที่เมื่อได้นํ้า ปลูกในพื้นที่กว้างดอกจะสวยงามเป็นทุ่งสีเหลือง ส่วนอีกเส้นทางดอกไม้ที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ในช่วงฤดูฝนจะมีทุ่ง เปราะภูขาว ตาเหินไหว เอนอ้า ลิ้นมังกรดอกส้ม ฯลฯ โดย เปราะภูขาว เป็นดอกไม้ป่าพืชตระกูลขิงข่ามีเหง้าอยู่ใต้ดิน เป็นดอกไม้ในฤดูฝนที่ขึ้นแทรกแซมอยู่ตามลานหิน ผลิบานให้ชมเป็นทุ่งกว้าง ออกดอกให้ชมในช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนสิงหาคม อีกทั้งในพื้นที่นี้ยังมีความงามของดอกไม้อีกหลากหลาย แต่ฤดูกาลนี้กลุ่มนี้จะเป็นไฮไลต์

ดอกเข้าพรรษา อีกหนึ่งดอกไม้ที่บอกเล่าการถึงฤดูฝนได้ชัดเจน โดยดอกเข้าพรรษา เป็นพืชหัวอยู่ใต้ดิน อีกทั้งมี ต้นเทียนนกแก้ว ซึ่งเป็นพืชล้มลุก และเป็นพืชเฉพาะถิ่น พบได้บนเขาสูงโดยเฉพาะเขาหินปูน ดอกเทียนนกแก้วเป็นดอกสีแดง แซมขาวและชมพู สวยงามคล้ายนกแก้ว มักให้ดอกในช่วงประมาณเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน

สำรวจศึกษาพันธุ์ไม้

นอกจากดอกที่มีความสวยงาม ผลเป็นฝักรูปกระสวยขนาดเล็ก เมื่อแห้งจะแตก ดีดเมล็ดออกไปได้ไกล เป็นอีกพันธุ์ไม้หายาก พบบริเวณดอยเชียงดาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ อีกทั้งดอกไม้ประดับแทบทุกชนิด เมื่อได้รับนํ้าฝนก็จะผลิใบออกดอกสวยสดชื่น 

“ความสวย งามของดอกไม้แต่ละฤดูกาล  นอกเหนือจากความสวยงามยังส่งต่อการเรียนรู้ต่อไปอีกกว้างไกล ขึ้นอยู่กับความสนใจ โดยบางชนิดให้ประโยชน์ในด้านอาหาร  สรรพคุณทางยาหรือมีกลิ่นหอม ฯลฯ ซึ่งศึกษาค้นได้จากพืชพันธุ์ไม้ดอกไม้หน้าฝน และนอกจากให้ความสดชื่นสวยงามจากที่กล่าวยังบ่งบอกฤดูกาล บอกเล่าการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ

นักวิชาการ กองวิชาการพฤกษศาสตร์ พิชญ์สินีให้มุมมองทิ้งท้ายอีกว่าบางปีจะเห็นดอกไม้ที่เคยผลิบานในช่วงปลายฝนต้นหนาว แต่ก็ล่าถอยออกไป หรือ ดอกกระเจียว จากเคยบานในช่วงต้นมิถุนายน แต่ถ้าฤดูร้อนยาว นานกว่าปกติ ฤดูฝนล่าถอยออกไป กระเจียวก็จะไม่บานให้ชม การเจริญเติบโตไม่เป็นไปตามฤดูกาลเหมือนเคยเป็นหรือปริมาณนํ้าฝนมากหรือน้อยก็ล้วนแต่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้”

ฤดูฝน ฤดูกาลที่มีความสมบูรณ์มีความครบพร้อมด้านต่าง ๆทั้งแสงแดด นํ้าฝน ออกซิเจนหรือแร่ธาตุที่มากับฝนซึ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้พืชเจริญเติบโต เป็นอีกช่วงเวลาดีต่อการเที่ยวชมความสมบูรณ์ ชมความสวยงามของนานาพรรณไม้ ดอกไม้ในธรรมชาติ  ตระหนักถึงการดูแลธรรมชาติ อีกส่วนหนึ่งที่บอกเล่าผ่านดอกไม้ในฤดูฝน

ดอกไม้ที่เติมสีสันความสดชื่นความมีชีวิตชีวาให้กับฤดูกาล.

พงษ์พรรณ บุญเลิศ