เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์พาดพิงถึงทางร้าน Deed club (ดีดคลับ) ว่าถูกการ์ดกว่า 20 คน รุมทำร้ายขโมยเงินและมีการโพสต์ติดต่อกันอีกหลายข้อความ ต่อมาทางเพจร้าน Deed Club ได้มีการโพสต์แสดงข้อเท็จจริง พร้อมมีข้อความอธิบายถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ทางร้านขอแจ้งว่าไม่เป็นความจริงตามที่โพสต์ เจ้าหน้าที่การ์ดของทางร้านเพียงแค่เข้าไประงับเหตุ เพื่อไม่ให้น้องคนนี้ทำลายของภายในร้าน และมีคลิปใต้คอมเมนต์ เบื้องต้นทางร้านได้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีไว้แล้ว ที่ สภ.เมืองตรัง หลังจากที่มีการโพสต์ข้อความออกไปก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ล่าสุดที่ร้าน Deed Club ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง นายพิเชษฐ์ เส็นหละ อายุ 43 ปี ผู้จัดการร้าน และ น.ส.ณัฐนันท์ สิทธิชัย อายุ 32 ปี รองผู้จัดการร้าน ได้นำผู้สื่อข่าวชี้ดูจุดเกิดเหตุบริเวณโซนชิล 2 จุด จุดแรกบริเวณตู้แช่เครื่องดื่มติดกับทางเข้าร้าน และจุดที่ 2 บริเวณเวทีนอกร้าน ความเสียหายเบื้องต้นมีเบียร์ที่ถูกโยนลงพื้น 6 ขวด ซึ่งปรากฏตามกล้องวงจรปิด

น.ส.ณัฐนันท์ เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว มีพนักงานหญิงอายุ 27 ปี มีอาการเมาสุราไม่พอใจที่เบิกเงินเดือนไม่ได้ เมื่อสงบลงก็ได้โทรฯ ตามแฟนผู้ก่อเหตุให้มารับกลับบ้าน ตอนนั้นพนักงานหญิงก็ได้เดินไปที่บาร์ ตนก็คิดว่าไปเอากระเป๋า แต่กลับเปิดตู้เย็นและหยิบขวดเบียร์โยนลงพื้นไป ที่คู่กรณีโพสต์ว่าถูกคนกว่า 20 คนทำร้ายนั้น ขอยืนยันไม่เป็นความจริง ส่วนที่เอาผ้ามัดปากนั้นเป็นเรื่องจริง เพราะในระหว่างที่การ์ดร้านเข้าไประงับเหตุ ทางพนักงานหญิงได้ใช้ปากกัดตามแขน คอ และลำตัวของผู้ที่เข้าไปช่วยห้าม ซึ่งทางร้านก็มีกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน จากนั้นทางร้านได้โทรฯ แจ้งสายตรวจให้พาตัวไปโรงพักเพื่อสงบสติอารมณ์ ระหว่างนั้นพนักงานหญิงก็ได้มีการโพสต์ข้อความและไลฟ์สดโจมตีร้าน ต่อมาเวลา 01.00 น. ก็ได้นั่งรถ จยย. กลับมาที่ร้าน ก่อนทำลายข้าวของบนเวที ได้รับความเสียหายเล็กน้อย หลังจากเกิดเรื่อง ตนก็ได้รับมอบอำนาจให้เข้าไปแจ้งความแล้วที่ สภ.เมืองตรัง

ด้านนายพิเชษฐ์ กล่าวว่า พนักงานหญิงรายดังกล่าวเพิ่งเริ่มทำงานได้ 5 วัน ดูแลลูกค้าบริเวณโซนนอกร้าน ในระหว่างที่ทำงานอยู่นั้น เวลาประมาณ 21.00 น. ได้มีการดื่มค็อกเทลกับลูกค้า โดยได้ดื่มไปทั้งหมด 12 ชอต จนเกิดอาการมึนเมาและได้ไปกวนลูกค้ารายอื่น หัวหน้างานจึงเข้าไปตักเตือนแต่พนักงานหญิงรายดังกล่าว ก็ร้องไห้โวยวายที่ถูกกล่าวหาว่าเมา และไปนั่งหน้าร้าน ต่อมาเวลา 00.00 น. ซึ่งเป็นเวลาปิดโซน ตนได้เรียกมาพูดคุยตักเตือน ก่อนที่พนักงานหญิงรายดังกล่าวจะขอเบิกเงินเดือน ตนได้ตอบไปว่าจะให้ฝ่ายบัญชีดำเนินการให้ในวันถัดไป แต่พนักงานหญิงกลับมีอาการโวยวายขึ้นมา จนเกิดเหตุทำลายทรัพย์สินดังกล่าว

นายพิเชษฐ์ กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์นี้ ทางคู่กรณีก็ได้โพสต์กล่าวหาร้านทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งเรื่องที่โพสต์นั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ตนก็ได้รายงานไปให้ทางเจ้าของร้านทราบเรื่องแล้ว ก็จะขอดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ตอนรับเข้ามาพนักงานหญิงคนนี้ก็ทำงานดีมาก ขยัน เอาใจใส่ในงานบริการเป็นอย่างดี หลังจากโวยวายครั้งแรก ทางร้านก็พร้อมให้โอกาสมาทำงาน ค่อยมานั่งคุยปรับทัศนคติกันใหม่ แต่พอมาเกิดเหตุนี้ ก็ต้องดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนต่อไป.