จากกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข สั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคเร่งทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงการแฮกข้อมูลผู้ป่วยของกระทรวงสาธารณสุข 16 ล้านคน โดยเบื้องต้นพบเหตุเกิดที่ จ.เพชรบูรณ์​ ขณะที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ ชี้แจงว่าข้อมูลที่ถูกแฮกไปนั้น เป็นของ​ รพ.เพชรบูรณ์ แต่เป็นข้อมูลที่ไม่สำคัญและมีจำนวนไม่ถึง 16 ล้านคน โดยข้อมูลดังกล่าว เป็นเพียงทะเบียนประวัติวันเข้าออกของคนไข้ ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น

“เสี่ยหนู”เผยต้นตอแฮกชื่อผู้ป่วย16ล้านคน สั่งปลัดสธ.เร่งตรวจสอบฟันผิดตามก.ม.

แชร์ว่อน! อ้างระบบ สธ. ถูกเจาะล้วงข้อมูลคนไข้ ขายตลาดมืด 16 ล้านรายการ

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ สภ.เมืองเพชบูรณ์ นพ.นิติ เหตานุรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ พร้อมด้วย ผู้บริหารและนิติกรโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ได้เดินทางเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้แฮกข้อมูลของโรงพยาบาล โดยมี พ.ต.อ.รณฤทธิ์ สุธาพจน์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ และ พ.ต.ท.วัชรินทร์ อินทรประพันธ์ รอง​ ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ร่วมสอบปากคำ เบื้องต้น นพ.นิติ แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า ในส่วนของเรื่องดังกล่าว กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะเป็นผู้แถลงในรายละเอียดทั้งหมด และหลังจาก​ สธ.ได้แถลงข่าวแล้ว จะมีประกาศของโรงพยาบาลชี้แจงข้อมูลทางเพจเฟซบุ๊กของโรงพยาบาลเพชรบูรณ์อีกครั้ง

นพ.นิติ กล่าวว่า ที่เดินทางเข้าแจ้งความที่ถูกแฮกข้อมูล เพราะว่า จะได้เป็นกลไกหรือกระบวนการในเรื่องของการบังคับใช้ทางกฎหมายต่อไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบข้อมูลว่า ใครเป็นคนแฮก แต่ทราบว่าข้อมูลที่ถูกประกาศขาย ณ วันนี้ มีอะไรบ้าง ทราบเพียงเท่านี้ แต่ขั้นตอนที่ลึกลงไปทั้งหมด ยังไม่ทราบ เมื่อมีการเอาข้อมูลที่ขายมาโชว์ จึงทราบได้ว่ามีอะไรบ้าง เราก็เลยตรวจสอบข้อมูลมาปรากฏว่า ไม่ใช่ระบบปฏิบัติการข้อมูลคนไข้ในฐานโรงพยาบาล เป็นโปรแกรมที่ทางทีมงานเขียนเพื่ออำนวยความสะดวกแพทย์กับทางทีมงานในการดูแลคนไข้ ที่ไฟล์ที่โชว์ภาพจะเป็นไฟล์เกี่ยวกับเรื่องของข้อมูลคนไข้ ที่เข้ามานอนโรงพยาบาล และทางทีมจะดึงมาเฉพาะหัวข้อ เช่น รายชื่อคนไข้ รายชื่อแพทย์ ไม่มีประวัติการรักษา ไม่มีการโชว์ประวัติการรักษาเท่าที่เราทำโปรแกรมนี้มา อย่างอื่นระบบปฏิบัติการใหญ่ไม่ได้เข้าไปยุ่ง.