สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ว่า นางจูลี อินแมน แกรนต์ กรรมาธิการของอี-เซฟตี และอดีตพนักงานของทวิตเตอร์ กล่าวว่า ขณะนี้ทวิตเตอร์มีส่วนรับผิดชอบต่อการร้องเรียนราว 33% เกี่ยวกับคำพูดแสดงความเกลียดชังทางออนไลน์ ที่มีการรายงานในออสเตรเลีย
อินแมน แกรนต์ กล่าวว่า ทวิตเตอร์มีเวลา 28 วัน ในการแสดงให้เห็นว่า มีความจริงจังในการแก้ปัญหาข้างต้น มิฉะนั้น บริษัทต้องถูกปรับ 700,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 16.5 ล้านบาท) ในทุกวันที่ล่วงเลยเวลาตามที่กำหนด
นับตั้งแต่มัสก์ซื้อกิจการของทวิตเตอร์ เมื่อเดือน ต.ค. 2565 เขาปรับลดจำนวนพนักงานของบริษัทมากกว่า 80% รวมถึงผู้ดูแลเนื้อหาที่รับผิดชอบ ในการจัดการการละเมิดทางออนไลน์
Billionaire Elon Musk's social media platform Twitter has been issued with a demand from Australian authorities for information on what it is doing to tackle online hate. https://t.co/sI63mmksol
— ABC News (@abcnews) June 21, 2023
“ดูเหมือนว่าทวิตเตอร์จะเลิกจัดการกับเนื้อหาที่สร้างความเกลียดชังแล้ว” อินแมน แกรนต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อี-เซฟตี ไม่ได้เป็นหน่วยงานเดียวที่มีความกังวลเกี่ยวกับระดับของความเป็นพิษและความเกลียดชัง ที่เพิ่มขึ้นในทวิตเตอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพุ่งเป้าโจมตีชุมชนชายขอบ
ทั้งนี้ ออสเตรเลียเป็นผู้นำการผลักดันระดับโลก ในการกำกับดูแลแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อินแมน แกรนต์ เพ่งเล็งทวิตเตอร์อย่างเปิดเผย เนื่องจากเมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว เธอเขียนจดหมายถึงมัสก์ โดยแสดงความกลัวว่า การลดพนักงานจำนวนมาก อาจทำให้ทวิตเตอร์ไม่สามารถปฏิบัติตามกฎหมายของออสเตรเลียได้
ยิ่งไปกว่านั้น นายสแตน แกรนต์ นักข่าวชนพื้นเมือง ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคลากรวงการสื่อ ที่ได้รับความเคารพสูงสุดในออสเตรเลีย กล่าวเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมาว่า เขายื่นคำร้องต่อทวิตเตอร์เกี่ยวกับ “ความเลวทรามทางเชื้อชาติ” ที่เขาพบขณะใช้งานแพลตฟอร์มนี้.
เครดิตภาพ : AFP