เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค พท. และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ตนมาอัปเดตความคืบหน้าเรื่องการรีแบรนด์พรรค ที่จะต้องมาอัปเดตกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
เมื่อถามถึงในวันพรุ่งนี้ (27 มิ.ย.) ที่มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และประชุม ส.ส. พรรคนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ได้มีความเกี่ยวข้อง และอยากให้คำนึงถึงเรื่องปากท้องของประชาชนมากกว่า เพราะขณะนี้ค่อนข้างหนักหนาสาหัส ทั้งค่าครองชีพสูง รายได้ลด รวมถึงปัญหาภัยแล้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า
เมื่อถามถึงการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือการจับมือฝ่ายประชาธิปไตยเดินไปข้างหน้านั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า มั่นใจว่าทุกคนรู้ว่าควรทำในสิ่งที่ถูกต้อง โดยเฉพาะพรรคที่เป็นสถาบันการเมืองขนาดใหญ่ที่รู้ว่าจะต้องทำอะไร และต้องยึดโยงกับประชาชนเป็นหลัก เพราะประชาชนกำลังเดือดร้อนกันอย่างมาก
“การแข่งขันขณะนี้จบไปแล้ว ไม่มีความเชื่อและไม่เห็นด้วยในเรื่องของการซื้อ ส.ส. ซื้องูเห่า ซึ่ง ส.ส. ถือเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ ต้องยึดโยงกับประชาชน เวลาลงสมัครในสนาม สีเสื้อใคร เขาเลือกเรามาในสีเสื้อนั้น เราน่าที่จะต้องให้เกียรติประชาชน วันนี้ต้องรับใช้ทำงานประชาชนก่อน” นายเศรษฐา กล่าว
เมื่อถามว่า การทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์หลังนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล เสนอให้วันที่ 24 มิ.ย. เป็นวันชาติ เป็นความหมายของวันรัฐประหารใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า การไม่เอารัฐประหาร และไม่เอาเผด็จการมีความสำคัญมากกว่า ส่วนจะเป็นวันหยุดหรือไม่หยุดนั้นเป็นเรื่องรอง ขณะนี้ประเทศไทยพัฒนามาเยอะแล้ว ไม่อยากให้ถอยหลังกลับไปอีก 8 ปีที่ผ่านมาสาหัสพอแล้ว
