เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรับร้องเรียนจาก น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี ชาว อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ว่า พี่สาว อายุ 43 ปี หลานสาว อายุ 22 ปี เพื่อนหลาวสาว อายุเท่ากัน 22 ปี และหลานชาย หลานสาว วัย 13 ปี รวม 5 ชีวิต หายตัวไปอย่างลึกลับ แจ้งความไว้ที่ สภ.ท่าศาลา แล้วแต่ผ่านมานานกว่า 2 เดือน คดีไม่คืบ

น.ส.เอ เล่าว่า ก่อนหน้านี้หลานสาว ได้พา นายลมกรด (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ แฟนหนุ่มที่เพิ่งคบหากันได้เพียง 5 เดือน มาทำความรู้จักกับที่บ้าน ก่อนที่นายลมกรดชักชวนพี่สาวตนให้ร่วมลงทุนเปิดปั๊มน้ำมัน อ้างว่าเป็นเจ้าของธุรกิจหลายอย่าง ทำให้ พี่สาวหลงเชื่อ นำที่ดิน 5-6 ไร่ไปขาย ได้เงินมา 300,000 บาท อีกทั้งยังบอกกับพี่สาวตนว่า จะช่วยเหลือดูแลเรื่องทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ ทั้ง 4 คน โดยจะรับเป็นลูกบุญธรรม หลังจากนั้นพี่สาวได้เงินจากการขายที่ดินมา ก็นำไปให้นายลมกรด และถูกนายลมกรด หว่านล้อมให้ลงทุนเพิ่ม จึงนำรถกระบะไปจำนองได้เงินมาอีก 100,000 บาท

น.ส.เอ เล่าว่า กระทั่งเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา นายลมกรด นำรถตู้สีขาว มีนายนพดล เป็นคนขับ และมีหญิงสาวคนสนิทของ นายนพดล นั่งมาด้วยกันรวม 3 คน ก่อนพาทั้ง 5 คน ออกไปจากบ้าน หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย โดยแม่ตน ได้ไปแจ้งความไว้แล้ว ที่ สภ.ท่าศาลา เบื้องต้นตำรวจพบว่ารถตู้ที่มารับอยู่ในพื้นที่ จ.พะเยา และสามารถจับกุมนายนพดล ได้คนหนึ่ง เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา แต่ให้การอ้างเพียงว่า นายลมกรด เช่ารถตู้ให้มารับเท่านั้น ก่อนประกันตัวในชั้นศาลออกไป และจนมาถึงป่านนี้ ผ่านมากว่า 2 เดือน คดีไม่มีอะไรคืบหน้า และยังไม่สามารถติดต่อทั้ง 5 คนได้ จึงมาร้องสื่อให้ช่วยติดตาม

ผู้สื่อข่าวรายงานข้อมูลจากชุดสืบสวนเบื้องต้นว่า หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนอย่างต่อเนื่อง จนสามารถไปติดตามจับกุมตัวคนขับรถตู้ได้ จากข้อมูลที่รถตู้คันนี้ถูกใบสั่งจากการใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด ซึ่งได้นำตัวมาสอบปากคำ ส่วนข้อมูลเชิงลึกในขณะนี้ พบว่า พี่สาวผู้ร้องมีการขายที่ดินรวมทั้งนำรถยนต์ไปจำนำที่กรุงเทพฯ และยังพบว่ามีการนำที่ดินของญาติไปขายอีกด้วย เบื้องต้นคาดว่าผู้หายตัวไปนั้นมีปัญหาเรื่องหนี้สินจำนวนมาก แล้วอาจพาลูกๆ หลานๆ หนีไป อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่ตัดประเด็นอื่นไป โดยเฉพาะประเด็นที่ญาติๆ กังวลเกรงว่าจะถูกฆาตกรรมอำพราง อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวนายลมกรด มาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง