กรณี น.ส.นิรมล หรือมิ้นท์ พรหมคุณ อายุ 30 ปี เดินเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ว่า นายยุทธนา หรือแจ๊บ มาดี อายุ 29 ปี สามีของ น.ส.นิรมล ก่อเหตุฆาตกรรม ด.ญ.อริศสา หรือ ปีใหม่ ถิราวัฒน์ อายุ 12 ขวบ ลูกบุญธรรม ที่รับอุปการะมาจากญาติห่างๆ เสียชีวิต ก่อนจับยัดถังพลาสติกโบกปูนทับ หลังจากนั้นทั้งคู่ได้เดินทางเพื่อไปสารภาพกับญาติเด็ก แต่นายยุทธนา ออกอุบายว่าไปหาเพื่อน ก่อนหลบหนีไปและถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 01.00 น. วันที่ (2 ก.ค.) ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

ด่วน! รวบแล้ว ‘ไอ้แจ๊บ’ มือฆ่าโบกปูนลูกเลี้ยงวัย 12 หลังหนีกบดานโรงแรม

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลักฐานกล้องวงจรปิด เป็นเหตุการณ์ในบ้านที่เกิดเหตุ ขณะ นายยุทธนา พ่อบุญธรรม ทำร้ายร่างกาย น้องใหม่ หลายสิบครั้งจนเสียชีวิต ที่กำลังมีการเผยแพร่อยู่ในโซเชียลขณะนี้ ถือเป็นหลักฐานสำคัญในการดำเนินคดี นายแจ๊บ แล้วอย่างแน่นอน

ขณะที่จากภาพกล้องวงจรปิดอีกช่วงเวลาประมาณ 08.30 น. ของวันที่ 2 ก.ค. เป็นภาพขณะนายแจ๊บ กำลังขนอุปกรณ์เพื่อใช้ในการอำพรางศพ โดยมี น.ส.มิ้นท์ ซึ่งเป็นภรรยา นั่งสูบบุหรี่รออยู่ที่บ้าน ต่อมาเป็นภาพนายแจ๊บ ยกถังน้ำแข็งสีน้ำเงิน เข้ามาในบ้าน และเดินตรงเข้าไปในห้องครัว จากนั้น น.ส.มิ้นท์ มีการพูดคุยบางอย่างกับสามี ก่อนจะเดินมาช่วยยกถุงสีขาว คาดว่าน่าจะเป็นถุงบรรจุดินปลูกต้นไม้ เดินตามนายแจ๊บเข้าไปในห้องครัว และเห็นภาพนายแจ๊บ กำลังปูผ้าพร้อมกับลากสายยางฉีดน้ำ เดินวนเวียนอยู่ในห้องครัว ขณะที่ น.ส.มิ้นท์ ได้ยกถุงสีขาว เข้าไปหลังบ้านหลายครั้ง เช่นเดียวกับนายแจ๊บ ก็เดินออกมาช่วยยกถุงสีขาวเข้าไปครัว ก่อนที่ทั้ง 2 คน จะเดินออกมาพูดคุย เหมือนปรึกษาอะไรบางอย่าง

ซึ่งจากภาพจะเห็นว่า น.ส.มิ้นท์ ไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัว หรือไม่ได้ถูกสามีข่มขู่แต่อย่างใด ก่อนจะนั่งสูบบุหรี่ นำกรรไกรช่วยตัดเชือกถุงสีขาว ลักษณะคล้ายถุงปูนสำเร็จ ที่วางอยู่บนพื้น ก่อนจะยกถุงเดินเข้าไปในห้องครัว จากนั้น น.ส.มิ้นท์ กลับมานั่งบริเวณจุดแพ็กสินค้า และนายแจ๊บ เดินออกมาหา นั่งปรึกษาอะไรกันบางอย่างกันอีกรอบ โดยนายแจ๊บ ได้หยิบน้ำกระท่อมขึ้นมาดื่มไปพรางๆ แล้วก็เดินกลับเข้าไปในห้องครัวหลังบ้านอีกรอบ และ น.ส.มิ้นท์ ก็ได้เดินตามเข้าไปเช่นกัน ก่อนที่นายแจ๊บ จะหยิบกะละมังสีชมพูใบใหญ่ให้กับ น.ส.มิ้นท์ ถือ และวางลงกับพื้น คาดว่าน่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ น.ส.มิ้นท์ ใช้ผสมปูน ใช้ในการโบกทับที่ศพ ซึ่งทั้ง 2 คน ช่วยกันผสมปูน

โดยจากวงจรปิดดังกล่าว ทำให้เห็นว่า น.ส.มิ้นท์ อยู่ในเหตุการณ์และรับรู้ทุกอย่าง แต่ไม่มีการแจ้งความหรือให้การช่วยเหลือ และไม่มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีการอยู่และเคลื่อนไหวกับนายแจ๊บ ตลอดเวลา กระทั่งมีการปิดบังซ่อนเร้นศพน้องใหม่จนสำเร็จ จึงอาจทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ อาจต้องแจ้งข้อกล่าวหา น.ส.มิ้นท์ ในข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพ และไม่ให้การช่วยเหลือผู้อื่นที่ตกอยู่ในภัยอันตราย