เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ไฟฟ้าส่องสว่างดับสนิทนานนับเดือน บริเวณถนนตัดใหม่ทางหลวงชนบท สายวิทยาลัยเทคนิคฯ-แยก ม.รามฯ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงบริเวณถนนสายดังกล่าว ซึ่งเป็นถนนตัดใหม่ เส้นทางลัดออกไปบรรจบถนนเลี่ยงเมืองมุ่งสู่ จ.สุรินทร์ บริเวณสะพานข้ามลำห้วยสำราญ 2 สะพาน พบว่ามีร่องรอยการถูกคนร้ายลักขโมยสายไฟไปทั้งแถบ ระยะทางรวมทั้งสองสะพานความยาวประมาณกว่า 300 เมตร โดยคนร้ายได้ตัดสายไฟจากต้นเสาไฟรวมกว่า 30 ต้น แล้วดึงเอาสายไฟจากท่อที่มีการสอดสายไฟโยงระหว่างต้นออกไปทั้งหมดทั้งสองฝั่ง จนเหลือแต่ท่อ นอกจากนี้บริเวณคอสะพาน ยังพบป้ายที่มีข้อความระบุว่า “ขออภัยในความไม่สะดวก สายไฟฟ้า โดนโจรกรรม อยู่ระหว่างประสานดำเนินการ”

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ออกไปสำรวจในช่วงเวลากลางคืน ก็พบว่าไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณดังกล่าวดับมืดสนิทไปทั้งแถบจริง ซึ่งชาวบ้านที่ใช้เส้นทางสัญจรดังกล่าวระบุว่าได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากกลางคืนถนนเส้นที่จะค่อนข้างเปลี่ยว เกรงว่าจะเกิดอันตราย และเกรงปัญหาต่างๆ จะตามมา โดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรม จึงวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่ง เข้ามาสำรวจและดำเนินการแก้ไขโดยด่วน

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถาม นายพิศิษฐ์ มัญจกาเภท ผอ.หมวดบำรุงทางหลวงชนบทเมืองศรีสะเกษ ในฐานะผู้รับผิดชอบถนนสายดังกล่าว เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา ถนนสายนี้ถูกคนร้ายที่คาดว่ามีความชำนาญเป็นพิเศษ ได้แอบเข้ามาขโมยตัดสายไฟบริเวณสะพานข้ามลำห้วยสำราญ ซึ่งมีอยู่ 2 สะพาน แล้วดึงเอาสายไฟออกจากท่อไปทั้งหมด จนได้รับความเสียหาย ทำให้ไฟฟ้าดับสนิทบริเวณสะพานข้ามลำห้วย

โดยทางด้านของหมวดบำรุงทางหลวงชนบทเมืองศรีสะเกษ ได้ดำเนินการเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เอาไว้แล้ว ซึ่งสาเหตุที่คนร้ายขโมยสายไฟเฉพาะบริเวณสะพาน เนื่องจากเป็นจุดที่ไม่ได้เดินสายไฟใต้ดิน เป็นการเดินสายไฟแบบสอดท่อ จึงทำให้คนร้ายสามารถตัดและดึงสายไฟออกได้ง่าย และเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ โดยต้องใช้ความชำนาญเป็นพิเศษ เพราะอาจถูกไฟฟ้าช็อตได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ ส่วนสาเหตุที่ขโมย คาดว่าคนร้ายอาจจะนำสายไฟฟ้าดังกล่าวไปลอกเอาทองแดงไปขาย

“การที่นำป้ายไปติดไว้นั้น เนื่องจากเกรงว่าชาวบ้านจะไม่เข้าใจ จึงติดเพื่อประชาสัมพันธ์ให้รับรู้สาเหตุของการที่ไฟดับ และให้รู้ว่าเจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการอยู่ โดยเบื้องต้นได้ทำการซ่อมแซมบางส่วน เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนของชาวบ้านแล้ว” ผอ.หมวดบำรุงทางหลวงชนบทเมืองศรีสะเกษ กล่าว.