จากกรณี เกิดกระแสการเลี้ยงตั๊กแตนในพื้นที่ต่าง ๆ ของภาคอีสาน โดยเฉพาะที่ จ.กาฬสินธุ์ สร้างรายได้อย่างงาม ทำให้พ่อค้าแม่ขายยิ้มออก หลังจากนำหญ้าหวานมาขายริมทาง สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่บริเวณถนนพื้นที่ ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ มีร้านขายหญ้าสดจำนวนมาก เหล่าผู้เลี้ยงตั๊กแตนปาทังกา เดินทางมาซื้อหญ้ากันอย่างคึกคัก มีตั้งแต่ หญ้าท้ายเขื่อนซุปเปอร์ลิฟ หญ้าหวานอิสลาเอล หญ้าจักรพรรดินรก หญ้าเนเปียร์ปากช่อง และหญ้าเนเปียร์แคระ จากกระแสความนิยมดังกล่าว ทำให้หลายพื้นที่ใน จ.กาฬสินธุ์ มีการปลูกหญ้ามากขึ้นเกือบ 1,500 ไร่ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าที่เลี้ยงตั๊กแตนปาทังกา

ด้าน นายประเมฆ วรรณสาร อายุ 60 ปี ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนเป็นเกษตรกรที่ยึดอาชีพปลูกหญ้ากับครอบครัวประมาณ 10 กว่าปี ส่วนของราคาหญ้าในแต่ฤดูแตกต่างกัน แต่ถ้าในหน้าร้อนฤดูแล้ง การจำหน่ายราคาจะดีกว่าหน้าฝน เพราะฤดูฝนมีหญ้าที่เกิดจากธรรมชาติ ทำให้ราคาลดลง ถ้าหน้าฝนขาย 6 มัด 100 บาท ถ้าหน้าแล้ง 3 มัด 100 บาท สำหรับพื้นที่ใช้ปลูกหญ้าไว้จำหน่ายประมาณ 7 ไร่ เศษ โดยที่ร้านจำหน่ายหญ้าหลายชนิด เช่น หญ้าท้ายเขื่อนซุปเปอร์ลิฟ หญ้าหวานอิสราเอล หญ้าจักรพรรดินรก หญ้าเนเปียร์ปากช่อง หญ้าเนเปียร์แคระ ทางร้านขายหญ้าท้ายเขื่อนซุปเปอร์ลิฟ ถุงละ 50 บาท ส่วนหญ้าหวานอิสราเอลทำเป็นมัดผูกเชือกฟางขาย 6 มัด จำหน่ายในราคา 100 บาท ขายมัดละ 20 บาท รายได้หักลบต้นทุนแล้ว กำไรตกเดือนละกว่า 20,000 บาท

ขณะที่ นางมุข ปาทะวาท อายุ 53 ปี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า วันนี้มาเลือกหาซื้อพันธุ์หญ้าเพื่อนำไปปลูกเอาไว้เป็นอาหารสัตว์และเป็นอาหารเลี้ยงตั๊กแตนปาทังกา เพราะในหญ้าหวานมีสารอาหารที่มีวิตามินสูง ทำให้ตั๊กแตนมีความเจริญเติบโตที่ดี มีน้ำหนักและมีรสชาติที่อร่อยถูกปากลูกค้า ถ้าจะซื้อตั๊กแตนที่เป็นตัวไปทอดขายราคาก็แพง จึงได้หัดมาทดลองเลี้ยงตั๊กแตนได้ไม่นาน โดยศึกษาข้อมูลในสื่อโซเชียล ขณะนี้ที่บ้านได้จำหน่ายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์และไข่ตั๊กแตนปาทังกาได้แล้ว และประกอบกับตนมีอาชีพค้าขายเป็นแม่ค้าขายแมลงทอดตามตลาดนัดหรืองานวัดที่บ้าน จึงเลี้ยงแมลงหรือแมงสะดิ้งหรือจิ้งหรีดอยู่แล้ว มีรายได้ตกเดือนละ 40,000 บาท.