นับถอยหลังไม่ถึง 24 ชั่วโมงจะถึงเวลาเปิดประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระที่ 3 เกี่ยวกับระบบเลือกตั้งมาตรา 83 และมาตรา 91 เรื่องให้กลับไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบและให้มี ส.ส.แบ่งเขต 400 คน-ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน

การแก้รัฐธรรมนูญรอบนี้เป็นการกำหนดกติกาเข้าสู่อำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติที่ต้องเข้าไปทำหน้าที่ยกมือโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในฐานะประมุขฝ่ายบริหาร

ขณะที่ท่าทีของฝ่ายต่างๆ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มชัดเจนคือ 1.เห็นด้วย 2.ไม่เห็นด้วย 3.สงวนท่าที -อ่านต่อ กางค่ายกลแก้รัฐธรรมนูญ จุดเปลี่ยนการเมืองไทย

‘บิ๊กป้อม’ ยัน พปชร. ฟรีโหวตแก้รธน.

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแนวทางการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 ของพรรคพปชร. ว่า ทุกอย่างแล้วแต่สมาชิกพรรค เพราะเป็นสิทธิของเขา ส่วนมุมมองส่วนตัวอยากให้เป็นไปในทิศทางใด พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่ส่วนตัว เดี๋ยวจะไปถามกันอีก”

เมื่อถามถึงความกังวลในส่วนของพรรคเล็กในการโหวต พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่กังวลแล้วแต่ และส่วน ส.ว.เป็นสิทธิของเขา”

เมื่อถามย้ำว่ามีกระแสข่าวตั้งข้อสังเกต พล.อ.ประวิตร เชื่อมโยงกับพรรคเพื่อไทย เพื่อให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่าน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่ตอบแล้วเดี๋ยวจะเขียนไปกันอย่างอื่น”

‘จุรินทร์’ ย้ำ มติ ปชป. หนุนวาระสาม

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยืนยันที่ประชุม ส.ส.พรรค ปชป. ทุกคนมีความเห็นร่วมกันว่าจะลงมติไปในทางเดียวกัน นั่นคือรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่สามพร้อมยืนยันการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่ได้ใส่พานไปให้กับพรรคใดพรรคหนึ่งหากเอาประโยชน์ของพรรคการเมืองเป็นที่ตั้งคงแก้ไขไม่ได้เราต้องถือหลักการว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องนำสู่ความเข้มแข็งของระบบพรรคการเมืองระยะยาว และนำไปสู่ความเข้มแข็งของระบอบประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่เราต้องคำนึงประโยชน์ของส่วนรวม ไม่ใช่ประโยชน์ส่วนพรรค

เมื่อถามว่า มี ส.ว.บางส่วนงดออกเสียงเพราะเห็นว่าเรื่องนี้เป็นการแก้ไขเพื่อประโยชน์พรรคการเมือง แต่ไม่เกิดประโยชน์ประชาชน นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่ขอพูดก้าวล่วงส่วนอื่นขอพูดเฉพาะในส่วนพรรค ปชป. และไม่ขอฝากอะไรถึง ส.ว.ทั้งสิ้น

เมื่อถามว่าบางฝ่ายมองว่าบัตรเลือกตั้งสองใบนั้นเป็นการกินรวบ นายจุรินทร์ กล่าวว่า มันไม่มีที่ยุติ เพราะทุกระบบมีทั้งจุดอ่อน จุดแข็ง เรื่องบัตรสองใบวิพากษ์วิจารณ์ได้ ส่วนบัตรใบเดียวมีจุดอ่อนเมื่อผลการเลือกตั้งออกมาเกิดเบี้ยหัวแตกซึ่งทุกอันก็มีจุดอ่อนจุดแข็งทั้งสิ้น ขอให้ยึดหลักเอาประโยชน์ในการสร้างพรรคการเมืองในอนาคตให้เข็มแข็งเพราะเป็นรากฐานสำคัญของระบอบประชาธิปไตย

‘ภูมิใจไทย’ ย้ำจุดยืนเดิม ‘งดออกเสียง’

นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า พรรค ภท.ยืนยันในจุดยืนของพรรคเหมือนเดิม คือ ส.ส.ทุกคนของพรรคงดออกเสียง เพราะเรางดออกเสียงมาตั้งแต่การพิจารณาในวาระหนึ่งและวาระสองมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง แต่เป็นการดำเนินการเพื่อพรรคการเมืองและนักการเมืองเท่านั้น อีกทั้งพรรคไม่มีความเห็นเรื่องบัตรเลือกตั้ง เพราะจะเป็นบัตรเลือกตั้งใบเดียวหรือบัตรเลือกตั้งสองใบ เราพรรคภูมิใจไทยก็มีความพร้อมทุกแบบ

เพื่อไทยชี้เดินมาถึง 2 ทางแยกสำคัญ

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า การลงมติวันที่ 10 ก.ย.มาถึง ทางแยกสำคัญ 2 ทาง คือ (1) ถ้าผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา เท่ากับเปลี่ยนไปใช้ระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ และ (2) หากไม่ผ่านเป็นบัตรเลือกตั้งใบเดียวเหมือนเดิม ทั้งนี้ เงื่อนไขรัฐธรรมนูญบังคับไว้ว่าจะต้องได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว. 1 ใน 3 คือจำนวน 84 เสียง ดังนั้นการแก้รัฐธรรมนูญรอบนี้ผ่านหรือไม่ขึ้นอยู่กับ ส.ว. และ ส.ว.จะลงแบบไหนขึ้นอยู่ที่คนตั้ง ส.ว.ด้วยว่า อยากได้แบบไหน

“ขอเรียกร้องให้ ส.ว. และผู้มีอำนาจ คิดถึงประชาชนบ้าง วันนี้สถานการณ์ต่างๆ ของประเทศที่วิกฤติ การแก้ไขปัญหาประเทศล่าช้า ไม่ประสบผลสำเร็จ ประชาชนต้องยากลำบาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาลอ่อนแอไร้ประสิทธิภาพ ไร้เสถียรภาพที่มาจากรัฐธรรมนูญนี้ ดังนั้นการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงขอให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงประชาชนให้มากที่สุด อย่าขัดขวางการสร้างประชาธิปไตยและคืนโอกาสให้ประชาชน ฉวยโอกาสคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อต่ออายุรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้อยู่ในอำนาจต่อไป” นายสุทิน กล่าว

ผ่านไม่ผ่านอยู่ที่ “บิ๊กตู่” คุมเกมในสภา

เช่นเดียวกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรค พท. กล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญวาระที่สาม ผ่านหรือไม่ผาน ขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จะมีการส่งสัญญาณอย่างไร ทุกอย่างเกิดขึ้นได้หมด เพราะพล.อ.ประยุทธ์คุมเกมในสภา ดังนั้นสามารถสั่งบุคคลในเครือข่ายคสช.ได้ว่าต้องการให้โหวตแบบไหน ดังนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 60 ขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าจะให้ผ่านหรือไม่ผ่าน

‘ก้าวไกล’ อัดบกพร่อง-ชุ่ย-ลุกลี้ลุกลน

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญรอบนี้ เต็มไปด้วยข้อบกพร่อง ความชุ่ย และความลุกลี้ลุกลน ไม่ได้เป็นไปเพื่อประชาชน นักวิชาการและฝ่ายการเมืองหลายฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นชัดเจนว่าระบบการเลือกตั้งแบบ “คู่ขนาน” (MMM) เอื้อต่อการกินรวบไม่จริงใจ เต็มไปด้วยวาระทางการเมืองที่เอื้อต่อการสืบทอดอำนาจของเผด็จการอำนาจนิยม พรรคก้าวไกลขอวิงวอนให้สังคม และพรรคการเมือง ที่มีจิตสำนึก ให้ร่วมต่อสู้เพื่อกติกาที่เป็นธรรมและความถูกต้องของกระบวนการนิติบัญญัติ โดยพรรคก้าวไกล มีกำหนดประชุมช่วงเช้าวันที่ 10 ก.ย. เพื่อกำหนดทิศทางโหวตร่างรัฐธรรมนูญ

ยันส.ว.ฟรีโหวต ไม่มีใบสั่งให้คว่ำ-ให้หงาย

พล.อ.นพดล อินทปัญญา สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งเป็นเพื่อนรักของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การลงมติร่างรัฐธรรมนูญวาระที่สาม ส.ว.ฟรีโหวต ยืนยันว่า ไม่มีใบสั่งให้คว่ำหรือให้หงาย เพราะแต่ละคนล้วนมีเหตุผลและใช้ดุลพินิจพิจารณา ส่วนตัวของตนได้พิจารณาผ่านตั้งแต่วาระที่หนึ่ง และวาระที่สอง ซึ่งในวาระที่สามจะพิจารณาให้ผ่านเช่นกัน ถ้าไม่มีการอภิปรายเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมยังไม่มีเหตุผลที่จะไม่ให้ผ่าน

เมื่อถามว่ามีการมองว่าหากบัตรเลือกตั้งสองใบผ่าน แล้วอนาคตอาจเกิดการกินรวบในระบอบรัฐสภา พล.อ.นพดล กล่าวว่า ตนไม่มองไปถึงขั้นนั้น เพราะมองปัจจุบันที่วาระหนึ่ง วาระสอง และวาระสามก็จบแล้วยังไม่ได้มองไปไกล เรื่องนั้นเป็นเรื่องของอนาคตที่เราไม่รู้ว่าพรรคการเมืองไหนจะชนะการเลือกตั้งอย่างไร ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นเรื่องของพรรคการเมือง ไม่เห็นมีอะไร.